หน้าฝนมักทำให้ใครหลายคนขี้เกียจลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เพราะอากาศเฉอะแฉะ เดินทางลำบาก หรือกลัวป่วย แต่จริง ๆ แล้ว การ ออกกำลังกายหน้าฝน เป็นช่วงเวลาที่ดีในการดูแลสุขภาพ เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจัด ลดความเสี่ยงฮีทสโตรก และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคหวัดและโรคระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย
ออกกำลังกายหน้าฝน มีอะไรบ้าง
การออกกำลังกายในช่วงต้นฤดูฝน ตั้งแต่พฤษภาคม-มิถุนายน หรือช่วงปลายฝนเดือนกรกฎาคม ก็มีความสำคัญไม่แพ้ช่วงอื่น ๆ ของปี แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไรนัก แต่การรักษาความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการเป็นหวัดในช่วงฤดูฝน และช่วยรักษารูปร่างที่ดีตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการอยู่ในที่ร่มเป็นเวลานาน และช่วยเพิ่มฮอร์โมนความสุขที่จำเป็นในช่วงที่แสงแดดไม่เพียงพอ การศึกษาของ American College of Sports Medicine พบว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ถึง 25-50% ซึ่งหากใครที่กำลังหันมาดูแลสุขภาพ แนะนำกิจกรรมเบา ๆ ดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ ดังนี้
ออกกำลังกายในร่ม
- ฟิตเนส เลือกเล่นเครื่องออกกำลังกายครบครัน สร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมันได้ดี
- โยคะ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น สมดุล ลดความเครียด มีให้เลือกหลายแบบทั้งโยคะร้อน โยคะพื้นฐาน
- บอดี้เวท ใช้น้ำหนักตัวเอง เล่นได้ทุกที่ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์
- คาร์ดิโอในร่ม เช่น วิ่งบนลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก กระโดดเชือก
กิจกรรม ออกกำลังกายหน้าฝน ประเภทกีฬากลุ่มในร่ม
- แบดมินตัน
- ปิงปอง
- บาสเก็ตบอล
- ฟุตซอลในร่ม
- ปีนหน้าผาแบบจำลอง ตามสถานที่นิยมในกรุงเทพมหานคร เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือสปอร์ตเซ็นเตอร์
ออกกำลังกายกลางแจ้งช่วงหน้าฝน
- วิ่งกลางฝน หากเตรียมตัวดี เลือกอุปกรณ์เหมาะสม เช่น รองเท้าวิ่งกันลื่น เสื้อกันฝน หมวก และวอร์มอัพให้มากกว่าปกติ สามารถวิ่งกลางฝนได้อย่างปลอดภัย แถมยังเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ
- เดินเร็ว ปั่นจักรยาน แนะนำเลือกช่วงเวลาที่ฝนซา หรือเส้นทางที่ปลอดภัย
วิธีเตรียมความพร้อมร่างกาย ก่อนออกกำลังกายช่วงหน้าฝน
ในช่วงฤดูฝน อุณหภูมิร่างกายมักจะต่ำกว่าปกติ การอุ่นเครื่องจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ ควรใช้เวลาอุ่นเครื่องนานขึ้นประมาณ 10-15 นาที แทนที่จะเป็น 5-10 นาทีตามปกติ
การอุ่นเครื่องที่ดีควรเริ่มจากการเคลื่อนไหวเบาๆ เช่น การเดิน การหมุนข้อต่อต่าง ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายอุ่นและพร้อมสำหรับการออกกำลังกายหลัก
การยืดเส้นก่อนและหลังออกกำลังกาย
ความชื้นในอากาศอาจทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีความยืดหยุ่นลดลง การยืดเส้นจึงมีความสำคัญมากขึ้น ควรยืดเส้นทุกกลุ่มกล้ามเนื้อที่จะใช้งาน และควรยึดการยืดเส้นไว้อย่างน้อย 30 วินาทีต่อท่า
หลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว การยืดเส้นเพื่อคลายกล้ามเนื้อก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน จะช่วยลดความเจ็บปวดและป้องกันการบาดเจ็บในการออกกำลังกายครั้งต่อไป
เทคนิคปรับโปรแกรมออกกำลังกายไม่ให้น่าเบื่อ
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายในช่วงหน้าฝน ควรลดความเข้มข้นลงในช่วงแรกประมาณ 20-30% จากปกติ เนื่องจากสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลต่อสมรรถภาพของร่างกาย
เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว จึงค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นกับไปตามความสามารถ การปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
การเพิ่มความหลากหลายของกิจกรรม
เนื่องจากตัวเลือกการออกกำลังกายช่วงฤดูฝนมีข้อจำกัด การเพิ่มความหลากหลายในกิจกรรมจึงสำคัญเพื่อป้องกันความเบื่อหน่าย สามารถหมุนเวียนระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ เช่น วันหนึ่งเล่นโยคะ วันหนึ่งยกน้ำหนัก วันหนึ่งเต้นแอโรบิค
ออกกำลังกายหน้าฝน ฟิตร่างกาย เสริมคุ้มกันที่ดี
การออกกำลังกายในช่วงฤดูฝนไม่ใช่อุปสรรค หากเรารู้จักเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม เตรียมตัวให้พร้อม และใส่ใจสุขภาพอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในร่มหรือกลางแจ้ง ก็ช่วยให้คุณฟิตแอนด์เฟรชตลอดฤดูฝนนี้
อย่าลืมติดตามข่าวสาร ตารางแข่งขันกีฬา และเทคนิคสุขภาพดี ๆ หรืออยากรู้ผลการแข่งขัน ตารางนัดสำคัญในวงการกีฬารอบโลก ได้ที่ Siamintelligence แล้วมาอัปเดตเทรนด์กีฬาสุดมันส์กันทุกฤดู แล้วคุณจะไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวแน่นอน