ในบรรดาตลาดหุ้นที่ส่งผลต่อดัชนีหุ้นทั่วโลก เชื่อว่านักลงทุนคงรู้จักคำว่า “หุ้นดาวโจนส์” หรือ “ดัชนีดาวโจนส์” กันไม่มากก็น้อย โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ถือว่าเป็นมาตรฐานระยะยาว ที่ใช้สำหรับการติดตามสภาพการเงินของบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกา จึงทำให้กลายเป็นดัชนีหลัก ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นหลาย ๆ แห่ง เช่น หุ้นนิเคอิ หุ้นไทย หุ้นฮั่งเส้ง หุ้นจีน ฯลฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) เรียกกันสั้น ๆ ว่า หุ้นดาวโจนส์ คือ ดัชนีชี้วัดที่ประกอบไปด้วย หุ้นบลูชิปขนาดใหญ่ถึง 30 ตัว ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและ Nasdaq จึงทำให้ดาวโจนส์กลายเป็นดัชนีที่มีมาอย่างยาวนานมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยความตั้งใจเดิมของการสร้างดัชนีนี้ขึ้นมา คือ การใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงของสหรัฐในอดีตนั่นเอง
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ ยังช่วยเรื่องการติดตามสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากที่สุด รวมถึงการเห็นสภาพทางการเงินของบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐ เพราะถือว่า หุ้นดาวโจนส์ เป็นดัชนีที่บ่งชี้สภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั่นเอง เพราะฉะนั้น หากต้องการดูว่า ภาพรวมตลาดเป็นอย่างไร หุ้นสหรัฐตัวอื่น ๆ น่าลงทุนหรือไม่ ต้องดูดัชนีดาวโจนส์ประกอบในทุกครั้ง รวมถึงดัชนี Nasdaq และ S&P500
สำหรับกลุ่มธุรกิจหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องในดัชนีดาวโจนส์ ในปัจจุบันนี้สัดส่วนที่เยอะที่สุด คือ การเงิน ที่มีน้ำหนักรวมในดัชนีสูงถึง 21.70% โดยกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้อง ก็มีทั้ง American Express, Goldman Sachs, JPMorgan Chase, Visa และ Travelers ส่วนรองลงมาคือกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีทั้งกลุ่ม Apple, Cisco, Microsoft, Salesforce และ Intel โดยมีน้ำหนักรวมถึง 19.53%
โดยปกติแล้วการลงทุนในดัชนีดาวโจนส์ ต้องดูที่ปัจจัยที่มีผลต่อความผันผวนของดาวโจนส์ ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุดในการลงทุน โดยปัจจัยเหล่านี้มีทั้งสภาพเศรษฐกิจ การเมือง การตัดสินใจของรัฐบาล เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลก ผลการดำเนินงาน ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน และที่ขาดไม่ได้คือ ค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า จากข่าวด้านการเงินและสถานการณ์ต่าง ๆ ของทางสหรัฐฯ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีดาวโจนส์โดยตรง และได้รับผลกระทบต่อดัชนีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น หลังจากที่มีประเด็นของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ส่งผลทำให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอนโยบาย หรือแม้กระทั่งการประชุมเฟดที่ส่งผลต่อความกังวลด้านมาตรการภาษีของทรัมป์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตของ GDP อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ ก็ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีความผันผวนในตลาดหุ้นค่อนข้างสูง และหุ้นดาวโจนส์ก็มีการปรับตัวบ่อย ตามสถานการณ์ต่างๆ เพราะฉะนั้น นักลงทุนจะต้องติดตามข่าวสารในด้านต่าง ๆ อย่างครอบคลุม เพื่อประกอบการวิเคราะห์หุ้นดาวโจนส์วันนี้ ก่อนจะเลือกลงทุนในหุ้นดาวโจนส์ทุกครั้ง
ในการลงทุนกับ ดัชนีดาวโจนส์ ต้องทำการลงทุนเปิดบัญชีหลักทรัพย์ต่างประเทศ กับทาง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (Finansia) โดยสามารถทำการซื้อขายหลักทรัพย์ Nasdaq และ NYSE ผ่านทางระบบ GT Live หรือเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทก็ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในการลงทุนกับ หุ้นดาวโจนส์ หรือ หุ้นนิวยอร์ก ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลตลาด อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น วิธีดูผลดาวโจนส์ย้อนหลัง ที่จะบอกข้อมูลตลาดทั้งหมด การดูสถิติดาวโจนส์ และที่ขาดไม่ได้คือ การวิเคราะห์หุ้นดาวโจนส์ ที่จะทำให้รู้ว่าตลาดเป็นอย่างไรบ้าง และที่สำคัญคือ ในการซื้อขายดัชนีดาวโจนส์ จะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 7% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด ส่วนการซื้อขายขั้นต่ำอยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของเกาหลีเตรียมไม่ต่อสัญญากับ "คิมซูฮยอน" หลังพัวพันข่าวฉาวความสัมพันธ์กับผู้เยาว์ โดยสัญญาปัจจุบันจะหมดอายุในอีกเพียง 3 เดือนข้างหน้า
สะเทือนใจแฟนคลับ! คู่รักดังจากรายการเกาหลี "คิมยุนแจ-อียุนฮา" ประกาศถอนหมั้น ยุติความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการหลังคบกันมากว่า 1 ปี ทั้งที่เพิ่งประกาศข่าวดีเตรียมวิวาห์ในปีนี้ ล่าสุดออกแถลงการณ์แยกทางด้วยใจเศร้า
ยูทูเบอร์ดัง "สไปร์ท SPD" ออกมาชี้แจงขอโทษหลังโดน "กรรชัย" ติงคอนเทนต์สอนป้องกันตัวสไตล์นักโทษ ยันไม่ได้ตั้งใจทำเนื้อหาที่เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน พร้อมลบเนื้อหาส่วนที่ไม่เหมาะสมออกแล้ว