วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 16:30 น. ณ ห้องแถลงข่าวภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ฝ่ายจัดการแข่งขันสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง ระหว่าง...
ผลบอล อิตาลี พบ เยอรมนี การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก ระหว่างอิตาลีและเยอรมนี ณ สนามซาน ซิโร เมืองมิลาน จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน "อินทรีเหล็ก" ที่พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ "อัซซูรี่" ไปได้ 2-1 โดยมี โยซัว คิมมิช เป็นพระเอกของเกมจากการทำ 2 แอสซิสต์
เกมนี้ ลูเชียโน สปัลเล็ตติ กุนซือของอิตาลี จัดทัพในระบบ 3-5-2 โดยมี จานลุยจิ ดอนนารุมมา ยืนเฝ้าเสา แนวรับ 3 คนประกอบด้วย ดิ ลอเรนโซ, บาสโตนี และ คาลาฟิออรี แดนกลางนำโดย ซานโดร โตนาลี คุมจังหวะเกม ร่วมกับ บาเรลลา และ โรเวลลา ส่วนแนวรุกใช้คู่ มอยเซ คีน กับ ราสปาโดรี
ด้าน เยอรมนี ภายใต้การคุมทัพของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยมี เบามันน์ เป็นผู้รักษาประตู แนวรับนำโดย อันโตนิโอ รือดิเกอร์ จับคู่กับ โยนาธาน ทาห์ แดนกลางมี กรอสส์ และ โกเร็ตซ์กา คอยคุมจังหวะ ขณะที่ มูเซียลา รับบทเพลย์เมกเกอร์หลัง เบอร์คาร์ดท์ ที่ยืนเป็นหน้าเป้า
เกมเริ่มต้นได้เพียง 9 นาที เจ้าบ้านอิตาลีก็ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ โปลิตาโน ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตบเข้ากลางให้กับ ซานโดร โตนาลี ที่วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อด้วยเท้าขวา หลังจาก โยนาธาน ทาห์ สกัดบอลไม่ดี ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ให้อิตาลีนำ 1-0
หลังได้ประตู เจ้าบ้านยังเล่นได้ดุดันและเกือบได้ประตูที่สองในนาทีที่ 30 เมื่อ โตนาลี ได้ยิงเต็มแรงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ โอลิเวอร์ เบามันน์ ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม และเพียงสองนาทีต่อมา มอยเซ คีน ก็มีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่เบามันน์ก็ยังเซฟได้อีกครั้ง จบครึ่งแรก อิตาลี นำ เยอรมนี 1-0
ผลบอล อิตาลี พบ เยอรมนี ครึ่งหลังพลิกเกม จ่ายให้เพื่อนยิง 2 ลูก
เริ่มครึ่งหลัง นาเกลส์มันน์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวส่ง ทิม คลายดีนส์ท ลงมาแทน เบอร์คาร์ดท์ และการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดผลทันที เมื่อเพียงนาทีที่ 49 เยอรมนีก็ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ โยซัว คิมมิช เปิดบอลแม่นยำจากฝั่งขวา และเป็น ทิม คลายดีนส์ท ที่ลอยตัวโขกบอลกดลงพื้นเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
หลังจากเสมอกัน ทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก อิตาลีพยายามหาประตูที่สองในนาทีที่ 67 จากจังหวะยิงของ คีน ที่ข้ามคานไปนิดเดียว ตามด้วยลูกยิงของ ราสปาโดรี ที่โดน เบามันน์ เซฟได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 76 กลับเป็น เยอรมนี ที่มาได้ประตูพลิกนำ 2-1 จากลูกเตะมุมที่ คิมมิช เปิดเข้ามาอย่างแม่นยำ และเป็น ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ที่โหม่งบอลเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้ "อินทรีเหล็ก" พลิกนำ 2-1
อิตาลีพยายามเร่งเครื่องหาประตูตีเสมอในช่วงเวลาที่เหลือ แต่แนวรับของเยอรมนีที่นำโดย รือดิเกอร์ ยังทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่ง จบเกม เยอรมนี บุกมาเอาชนะ อิตาลี 2-1 ในเกมเลกแรก
ทั้งสองทีมจะกลับมาพบกันอีกครั้งในเกมเลกสอง ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2568 ที่สนาม ซิกนัล อิดูนา พาร์ค ประเทศเยอรมนี โดยเยอรมนีได้เปรียบก่อนเป็นฝ่ายนำ 2-1 ประตูทีมเยือน
สำหรับทีมอิตาลี พวกเขาจำเป็นต้องยิงอย่างน้อย 2 ประตูในบ้านของเยอรมนีเพื่อพลิกสถานการณ์ ซึ่งไม่ใช่งานง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับแฟนบอลเจ้าถิ่นที่คอยกดดัน แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีในช่วงครึ่งแรกของเกมเลกแรก แสดงให้เห็นว่าอิตาลีมีศักยภาพที่จะสร้างปัญหาให้กับแนวรับของเยอรมนีได้
ส่วนเยอรมนี พวกเขามีความได้เปรียบทั้งสกอร์และการได้เล่นในบ้าน ซึ่งหากสามารถรักษามาตรฐานการเล่นในครึ่งหลังของเกมเลกแรกได้ โอกาสที่จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศก็มีสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก โยซัว คิมมิช ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดิม
อิตาลี (3-5-2): จานลุยจิ ดอนนารุมมา; โจวานนี ดิ ลอเรนโซ, อเลสซานโดร บาสโตนี, ริคคาร์โด คาลาฟิออรี; มัตเตโอ โปลิตาโน, นิโคโล บาเรลลา, นิโคโล โรเวลลา, ซานโดร โตนาลี, เดสตินี อูโดกี; มอยเซ คีน, จาโคโม ราสปาโดรี
เยอรมนี (4-2-3-1): โอลิเวอร์ เบามันน์; โยซัว คิมมิช, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, โยนาธาน ทาห์, ดาวิด รอม; ปาสกาล กรอสส์, ลีออน โกเร็ตซ์กา; ลีรอย ซาเน, จามาล มูเซียลา, นาเดียม อามีรี; โยนาธาน เบอร์คาร์ดท์
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก ระหว่าง อิตาลี กับ เยอรมนี จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนอินทรีเหล็ก ที่พลิกกลับมาเอาชนะอัซซูรี่ไปด้วยสกอร์ 2-1 ถึงแม้ว่าเจ้าบ้านจะเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่ต้นเกมจาก ซานโดร โตนาลี แต่เยอรมนีก็กลับมาพลิกเกมในครึ่งหลังด้วยประตูของ ทิม คลายดีนส์ท และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า โดยทั้งสองประตูเกิดจากการจ่ายบอลที่แม่นยำของ โยซัว คิมมิช
ติดตามผลการแข่งขันเลกสองระหว่าง เยอรมนี พบ อิตาลี ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคมนี้ ว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ได้ที่นี่ Siamintelligence อัปเดตข่าวสาร ผลบอล ตารางการแข่งขัน และบทวิเคราะห์เจาะลึกทุกนัด
ผลบอลเอฟเอคัพอังกฤษล่าสุด คริสตัลพาเลซและแอสตันวิลล่าฝ่าด่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลเอฟเอคัพอังกฤษ ศึกฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกกำลังเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หลังจากจบการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว เราได้เห็นทั้งแมตช์ที่สุดมันส์และความเซอร์ไพรส์จากหลายทีม ทั้งการแข่งขันที่ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษและชัยชนะแบบไม่เหนื่อยจนเกินไป ทำให้เรามี 4 ทีมสุดท้ายที่เหลือรอชิงความเป็นเลิศในศึกเอฟเอคัพฤดูกาล 2024/25 นี้ มาดูกันว่าใครจะสามารถคว้าตั๋วไปเวมบลีย์และมีโอกาสลุ้นแชมป์ในรายการนี้กัน ผลบอลเอฟเอคัพอังกฤษล่าสุด รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากผลการแข่งขัน FA CUP ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย มีการแข่งขันทั้งหมด 4 คู่ด้วยกัน ผลบอลเอฟเอคัพอังกฤษล่าสุด คริสตัลพาเลซชนะฟูลัม ผลบอลเอฟเอคัพล่าสุด คริสตัลพาเลซทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการบุกไปเอาชนะฟูลัมถึงถิ่นด้วยสกอร์ 3-0 ในการแข่งขันที่สนามครอเวน คอตเทจ แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งภายใต้การคุมทีมของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้อย่างน่าประทับใจ ผลบอลเอฟเอคัพอังกฤษล่าสุด แอสตันวิลล่าทะลุเข้ารอบ ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพล่าสุด ทางด้านแอสตันวิลล่าก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง พวกเขาเอาชนะเพรสตันได้อย่างสบายๆ ด้วยสกอร์ 3-0 ในการแข่งขันที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ทีมของอูไน เอเมรี่ยังคงรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ และมีลุ้นคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1957 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ผ่านเข้ารอบด้วยการดวลจุดโทษ แมนเชสเตอร์ […]
โดมินิก โซบอสซ์ไล (Dominik Szoboszlai) หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่กำลังถูกจับตามอง และได้ติดท๊อปนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ด้วยอายุเพียง 24 ปี แต่เขามีสไตล์การเล่นที่โดดเด่นเหนือใคร จนได้กลายเป็นกำลังสำคัญของลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2023/24 แล้วทำไมเขาถึงถูกยกให้เป็นดาวรุ่งแห่งปี บทความนี้จะวิเคราะห์ สไตล์การเล่น จุดแข็ง และความสามารถพิเศษ ที่ทำให้โซบอสซ์ไลเป็นผู้เล่นที่ทุกทีมต้องระวัง โดมินิก โซบอสซ์ไล กับสไตล์การเล่นที่เหนือใคร ด้วยความเร็วและความคล่องตัวของ Dominik ไม่ใช่แค่เล่นบอลเก่ง แต่เขายังวิ่งเร็วและเปลี่ยนทิศทางได้คล่องแคล่ว ทำให้หลุดจากการประกบของคู่ต่อสู้ได้ง่าย ลักษณะการเล่นแนวนี้ ช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถเล่นเกมบุกได้อย่างรวดเร็ว สถิติของเขาในเรื่องความเร็วก็น่าประทับใจไม่น้อยไปกว่าทักษะการเตะเลย โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 35 กม.ต่อชั่วโมง ซึ่งสถิตินี้ก็ทำให้เขาได้เป็นหนึ่งในนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก และสามารถเข้าร่วมเกมรุกได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังช่วยเหลือทีม ในการกดดันคู่แข่งเมื่อต้องการเรียกบอลคืนกลับมา การส่งบอลแม่นยำระดับเชี่ยวชาญ หนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ Dominik เป็นนักเตะสร้างเกมระดับท็อปก็คือ การส่งบอลแม่นยำ ทั้งสั้นและยาว เขามักเป็นคนส่งบอลตัดเกมหรือเปิดเกมบุกให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อย่างสวยงามเปอร์เซ็นต์การส่งบอลสำเร็จของเขาอยู่ที่ 87% ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 และสร้างโอกาสให้ทีมได้มากกว่า 60 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการควบคุมจังหวะเกมและแม่นยำในการจ่ายบอล วิสัยทัศน์การสร้างเกมที่เหนือชั้น มองเกมออกก่อนใคร โซบอสซ์ไลมีทักษะการอ่านเกมสูง เขามักมองเห็นช่องว่างในการสับเปลี่ยนตำแหน่งก่อนผู้เล่นคนอื่น ทำให้สามารถส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้ได้อย่างเฉียบคม […]
เลขเด็ดงวดนี้ 1/4/68 ที่น่าติดตามอีกหนึ่งโพย ก็ต้องยกให้กับ “หวย AI” หรือ “เลข AI” ที่จากการคำนวณด้วยโปรแกรม ChatGPT