ผลบอล สกอตแลนด์ พบโปรตุเกส เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แฟนบอลได้เห็นการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างทีมชาติสกอตแลนด์และโปรตุเกส ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ กลุ่ม 1 นัดที่ 4 ณ สนามเฮมป์เดน พาร์ค เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ผลการแข่งขันจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ทำให้ทั้งสองทีมต่างได้คะแนนไปคนละ 1 แต้ม
โปรตุเกสครองเกม แต่เจาะไม่เข้า
โปรตุเกส นำโดยซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามาในเกมนี้ด้วยความมั่นใจสูง หลังจากชนะมา 3 นัดรวด แต่กลับพบว่าการเจาะแนวรับของสกอตแลนด์นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่โอกาสยิงประตูที่ชัดเจนกลับมีน้อย
ไฮไลท์สำคัญของเกม
สกอตแลนด์ โชว์แกร่งในบ้าน
ทีมเจ้าบ้านแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับการบุกของโปรตุเกสได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะมีโอกาสบุกน้อยกว่า แต่ก็สามารถสร้างจังหวะอันตรายได้เช่นกัน
ผลกระทบต่อตารางคะแนน
มุมมองของโค้ช
โค้ชของทั้งสองทีมต่างแสดงความเห็นหลังจบเกม โดยโค้ชโปรตุเกสยอมรับว่าทีมทำประตูไม่ได้ แต่ยังพอใจกับฟอร์มการเล่นโดยรวม ส่วนโค้ชสกอตแลนด์ชื่นชมลูกทีมที่เล่นได้อย่างทุ่มเทและมีวินัย
แนวโน้มการแข่งขันในนัดต่อไป
ทั้งสองทีมจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันนัดต่อไป โดยโปรตุเกสจะพยายามรักษาตำแหน่งจ่าฝูง ขณะที่สกอตแลนด์หวังจะสร้างผลงานที่ดีขึ้นเพื่อไต่อันดับในตาราง
การตัดสินใจเลือก รุด ฟาน นิสเตลรอย มาเป็นกุนซือคนใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ตกอยู่ภายใต้ข้อสงสัยของใครหลายคนหลังโค้ชชาวดัตช์ไม่สามารถช่วยเปลี่ยนชะตากรรมของสโมสรอย่างที่คาดหวัง มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง อาร์เซน่อล ในฐานะกูรูลูกหนังเมืองผู้ดีเปิดเผยผ่าน เลสเตอร์ ซิตี้ นิวส์ ถึงอนาคตของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ว่าจะนั่งเก้าอี้กุนซือของทีมจิ้งจอกอีกนานแค่ไหน หลังการทำผลงานย่ำแย่แพ้ 7 เกมติดต่อกันบนเวทีพรีเมียร์ลีกจนสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น เลสเตอร์ ซิตี้ เลือก ฟาน นิสเตลรอย เป็นกุนซือคนใหม่หลังการปลด สตีฟ คูเปอร์ ออกจากตำแหน่ง แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของสโมสร ปัจจุบันทีมจิ้งจอกยังอยู่อันดับ 19 ของตารางพรีเมียร์ลีก หลังเก็บได้เพีบง 14 คะแนนจากการลงเล่น 22 เกม บรรดาผู้บริหารของสโมสรคาดหวังว่าการแต่งตั้ง ฟาน นิสเตลรอย จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จากผลงานการคุมทีม 10 เกมแรกของกุนซือชาวดัตช์ ปรากฎว่าพวกเขาคว้าชัยชนะเพียงสองครั้งและปราชัยตลอด 7 เกมหลังสุดจนมีแฟนบอลส่งเสียงโห่ไล่บอสวัย 48 ปีหลังเกมพ่ายคารังต่อ คริสตัล […]
มาริซซา อันโตนิโอ พยาบาลวัย 39 ปี เปิดใจถึงการต่อสู้กับมะเร็งตับก้อนใหญ่ 19 เซนติเมตร พร้อมแบ่งปันสัญญาณเตือนสำคัญที่นำไปสู่การวินิจฉัยและรักษาทันเวลา
ซายูมิ มิจิชิเกะ วัย 35 ปี ตัดสินใจอำลาวงการหลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิต เตรียมจัดคอนเสิร์ตส่งท้าย กลางปี 2024 ท่ามกลางความอาลัยของแฟนคลับทั่วโลก