ประวัติอดีตแข้งเหล็ก ฟาน บาสเท่น ชื่อเต็ม มาร์โก ฟาน บัสเตน (Marco van Basten) หนึ่งในตำนานนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเนเธอร์แลนด์ และวงการฟุตบอลโลก เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1964 ที่เมืองอูเทรคต์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันอายุ 60 ปี ฟาน บัสเตนได้รับการขนานนามว่าเป็น "หงส์แห่งอูเทรคต์" The Swan of Utrecht เนื่องจากสไตล์การเล่นที่สง่างาม และการจบสกอร์ที่เฉียบขาดไม่เหมือนใคร
ฟาน บาสเท่น จากนักเตะจุดเริ่มต้นสู่ความยิ่งใหญ่
ฟาน บัสเตน เป็นเด็ดที่มีพรสวรรค์ โดยเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบกับทีมเยาวชน EDO ก่อนย้ายไปอยู่กับทีมเยาวชน UVV Utrecht และ USV Elinkwijk ในบ้านเกิด จนกระทั่งถูกค้นพบโดยสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมในปี 1981 เมื่ออายุเพียง 16 ปี โดยใช้เวลาเพียง 1 ปีในทีมเยาวชนก่อนถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
การระเบิดฟอร์มกับอาแจ็กซ์
ฟาน บาสเท่น เปิดตัวนัดแรกในลีกเมื่อวันที่ 3 เมษายน 1982 ด้วยการทำประตูในนัดเปิดตัว สวมเสื้อหมายเลข 9 อันเป็นสัญลักษณ์ของกองหน้าระดับตำนาน ยิง 28 ประตูจาก 26 นัดในฤดูกาลแรกที่ลงเล่นเต็มฤดูกาลคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรปในปี 1986 ด้วยผลงาน 37 ประตูในลีก และสร้างสถิติยิง 5 ประตูในเกมเดียวกับทีม Sparta Rotterdam
ยุคทองของ ฟาน บาสเท่น กับเอซี มิลาน
การปฏิวัติวงการฟุตบอลอิตาลีในปี 1987 ฟาน บัสเตนย้ายไปร่วมทีมเอซี มิลานภายใต้การนำของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่างรุด กุลลิท และแฟรงค์ ไรการ์ด สร้างทีมที่ได้ชื่อว่า "The Immortals" หรือ "ทีมอมตะ"
ผลงานที่โดดเด่น
- ยิง 125 ประตูจาก 201 นัด ให้กับ เอซี มิลาน
- คว้าแชมป์เซเรีย อา 3 สมัย 1988, 1992, 1993
- แชมป์ยูโรเปียนคัพ 2 สมัย 1989, 1990
- รางวัลบัลลงดอร์ ติดต่อกัน 3 สมัย ในปี 1988, 1989 และปี 1992
- ประตูวอลเลย์สุดสวยในนัดชิงยูโร 1988 ที่กลายเป็นตำนาน
ด้วยความสูง 188 เซนติเมตร ทำให้เขานั้นเหนือชั้นกว่าใคร ในความสามารถการโหม่ง และควบคุมบอล มีทักษะการจบสกอร์ที่หลากหลาย ทั้งการยิง และการวอลเลย์ เสริมความฉลาดในการอ่านเกมและการวางตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม บวกกับฝีเท้าที่มีความเร็ว และพละกำลังที่เหนือกว่านักเตะร่วมยุคนั้น
ความยิ่งใหญ่กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์
บัสเตน ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1983 อายุเพียง 18 ปี จากผลงานการยิง 24 ประตูจาก 58 นัดให้ทีมชาติ พร้อมนำทีมคว้าแชมป์ยูโร 1988 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของเนเธอร์แลนด์ และได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมยูโร 1988 อีกทั้งยังทำประตูที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโ รในรอบชิงชนะเลิศกับโซเวียต
หลังจากปัญหาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เริ่มรบกวนเขาตั้งแต่ปี 1987 และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องผ่าตัดหลายครั้ง สุดท้ายบัสเตนต้องประกาศเลิกเล่นในปี 1995 ที่อายุเพียง 30 ปี หลังจากพยายามรักษาและฟื้นฟูอย่างหนักแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
หลังจากได้เลิกเป็นนักเตะอาชีพไปไม่นาน อีก 8 ปีต่อมา ใน 2003-2004 คุมทีมอาแจ็กซ์ พาทีมจบอันดับ 2 ในลีก คุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 2004-2008 และนำทีมชาติเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2008
บทบาทในวงการฟุตบอลปัจจุบัน
ปัจจุบัน บัสเตน เป็นที่ปรึกษาให้กับฟีฟ่าในด้านกฎกติกา และการพัฒนาเกม เป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลให้กับสื่อต่างๆ และเขียนหนังสืออัตชีวประวัติ "Basta" ซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดี
สถิติและรางวัลที่น่าสนใจ
- อัตราการยิงประตู 0.96 ประตูต่อเกมตลอดอาชีพ
- ผลงานยอดเยี่ยม ที่สามารถติดทีมยอดเยี่ยมฟีฟ่า 100 ปีได้สำเร็จ
- ได้รับการจัดอันดับเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดอันดับ 4 ตลอดกาลโดยนิตยสาร World Socce
- เป็น 1 ใน 3 นักเตะที่คว้าบัลลงดอร์ 3 ครั้ง ร่วมกับมิเชล พลาตินี่และโยฮัน ครัยฟ์
มาร์โก ฟาน บัสเตน คือตำนานที่แท้จริงของวงการฟุตบอล แม้ความรุ่งโรจน์จะมีเพียง 10 ปี แต่ผลงานและอัจฉริยภาพในการเล่นของเขาก็เพียงพอที่จะจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลตลอดกาล หากไม่มีปัญหาการบาดเจ็บ เขาอาจสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้อีกมาก แฟนบอลสามารถติดตามเรื่องราวของตำนานฟุตบอลท่านอื่น ๆ และเช็กบอลสด ตารางแข่งขันฟุตบอลออนไลน์ ได้ที่ Siamintelligence ทุกวัน