ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือที่แฟนบอลรู้จักในชื่อ "ซิโก้" เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2516 อายุ 51 ปี ที่อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องสามคน เขาเติบโตขึ้นในครอบครัวที่อบอุ่น มีพี่สาวสองคนคอยดูแล ก่อนที่จะย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ในปี 2525 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตที่ทำให้เขาได้พบกับความฝันในวงการฟุตบอล
โก้ เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนบ้านหนองแดง อำเภอกุมภวาปี จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนย้ายมาเรียนต่อที่โรงเรียนน้ำพองศึกษา จังหวัดขอนแก่น จนจบมัธยมปลาย การเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาต่อสาขาการบัญชีที่โรงเรียนพาณิชยการกรุงเทพ และต่อด้วยปริญญาตรีด้านการจัดการจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองทั้งด้านการกีฬาและการศึกษา
เส้นทางในทีมชาติของ เกียรติศักดิ์ เริ่มต้นในปี 2533 กับทีมชาติไทยชุดเยาวชน ก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2536 ในการแข่งขันคิงส์คัพครั้งที่ 24 เขาสร้างชื่อเสียงจากการยิงประตูสำคัญมากมาย รวมถึงประตูประวัติศาสตร์ที่ 100 ในนัดที่เอาชนะสิงคโปร์ในคิงส์คัพครั้งที่ 37
ในช่วงที่ซิโก้รับใช้ทีมชาติไทย เขาได้ร่วมงานกับวีระเทพ ป้อมพันธุ์ ในหลายทัวร์นาเมนต์สำคัญ ทั้งสองเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ถึง 3 สมัย และสร้างผลงานยอดเยี่ยมในเอเชียนเกมส์ 2541 และ 2545 ด้วยการคว้าอันดับ 4
ซิโก้ ในบทบาทผู้ฝึกสอน จากนักเตะสู่กุนซือมืออาชีพ
ในปี 2545 ขณะที่ยังเป็นนักฟุตบอล เกียรติศักดิ์ได้ริเริ่มโครงการ "ซิโก้ทิปส์ สัญจร" เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านฟุตบอลให้แก่เยาวชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อสอนทักษะฟุตบอล
ความสำเร็จในฐานะผู้ฝึกสอน
หลังจากประสบความสำเร็จในฐานะนักฟุตบอล เกียรติศักดิ์ได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน โดยเริ่มจากสโมสรในเวียดนาม ก่อนกลับมาคุมทีมในไทยและประสบความสำเร็จอย่างสูงกับทีมชาติไทยชุด U-23 และทีมชาติชุดใหญ่
ย้อนผลงานกุนซือทีมชาติไทย 5 คนหลังสุดจาก 8 นัดแรกในปี 2019 การแข่งขันระหว่าอากิระ นิชิโนะ ชนะ 2 ครั้ง เสมอ 5 แพ้ 1 นัด ปี 2021 มาโน โพลกิง ชนะ 6 เสมอ 2 ครั้ง ไม่แพ้ใครเลยในปี 2024 และ มาซาทาดะ อิชิอิ ใน 8 เกมที่ผ่านมา ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 3 นัด
ซิโก้ ตำนานนักฟุตบอลไทยที่ประสบความสำเร็จ
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คือตำนานนักฟุตบอลไทย ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง ด้วยสถิติการยิง 70 ประตูจาก 131 นัดในทีมชาติไทย และการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ทั้งในฐานะนักเตะและผู้ฝึกสอน เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จเกิดขึ้นได้ด้วยความมุ่งมั่น และการทำงานหนัก นอกจากนี้แฟนบอลสามารถติดตามข่าวสารผลงานล่าสุดของวงการฟุตบอลไทยได้ที่ Siamintelligence เว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ฟุตบอลออนไลน์ ได้อย่างครบถ้วน
เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 2 สนามมวยลุมพินี “พลเอกสุชาติ แดงประไพ” อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก และอดีตนายสนามมวยลุมพินี ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการร่วมมือและสนับสนุนระบบมวยไทย เพื่อประโยชน์ในระยะยาวและการยกระดับสู่วงการระดับโลก อีกทั้งยังพูดถึงภาพรวมของปัญหาวงการมวยไทย ภายในการประชุม “พลเอกสุชาติ” ได้กล่าวถึงภาพรวมของปัญหาในวงการมวยไทย พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาในหลายมิติ ดังนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการแทรกแซงในกีฬามวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติครูมวยและกรรมการซึ่งมีผลต่อการจัดการองค์ความรู้ของมวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักมวย และวิธีฝึกการเทรนนิ่งของนักมวยปัญหาในสนามมวยมาตรฐานหดหายลงในการมอบสิทธิประโยชน์ผู้ชมทางบ้านกับเพิ่มขึ้นปัญหาการขาดได้ค่าตัวของสนามมวยจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดผ่านทีวีปัญหา กฎ กติกา และการตัดสิน ที่ยังไม่เป็นมาตรฐานมุมมอง ทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อ ของคนไทย ต่อมวยไทยผ่านการถ่ายทอดสด แต่ไม่นิยมเข้าสนามมวยข้อจำกัดในภาพใหญ่ของกลุ่มคนที่อำนวยประโยชน์วงการมวยการขาดการศึกษา และแนวทางในการรองรับความต้องการของตลาดมวยไทยองค์กรกับมวยไทย ในภาพรวมทั้งระบบ ขาดเอกภาพและการบูรณาการร่วมกัน การบริหารงานที่ไม่เชื่อมโยงกัน การพัฒนามวยไทยไม่มีประสิทธิภาพและไร้ทิศทาง และขาดการสร้างแผนงานระยะยาว ทั้งนี้ พลเอกสุชาติ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจังและความห่วงใยต่อวงการมวยไทยว่า “ขออีกอย่างหนึ่ง สนามกีฬาแห่งนี้ควรเป็นสนามกีฬา 100 เปอร์เซ็นต์ ปราศจากการแทรกแซง ผมอยากขอร้องรายการ ‘วันลุมพินี’ ถือเป็นรายการที่ยืนยันได้แล้วว่าสามารถพามวยไทยไปสู่เวทีโลกเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งมั่นจะสร้างมวยไทยให้ยิ่งใหญ่ และให้คนไทยภูมิใจ ผมขอร้องอีกครั้งครับ ขอพี่น้องทั้งหมดได้โปรดเมตตาพวกเราเถอะครับ ขอความร่วมมือ ขอความอนุเคราะห์ ต่อรายการวันลุมพินี ให้กับประเทศไทยเถอะครับ […]
วงการกอล์ฟโลกยังคงเดือดดุเดือดในปี2025 นี้ เมื่อเหล่าสุดยอด นักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก ที่มีชื่อเสียงต่างแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล วัย 33 ปี ตัดสินใจต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีก 2 ปี หลังสัญญาเดิมกำลังจะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แนวรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีความลังเลใจที่จะอยู่กับหงส์แดงต่อไป โดยระบุว่า "มันต้องเป็นลิเวอร์พูลเท่านั้น มันอยู่ในหัวผมเสมอ และมันคือแผนของผมมาตลอด" ก่อนหน้านี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ ก็เพิ่งเซ็นต่อสัญญาใหม่กับสโมสรออกไปอีก 2 ปี เช่นกันฟาน ไดค์ ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ และกลายเป็นหัวใจในแนวรับของทีมมาอย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามให้สโมสรไปแล้ว 314 นัด และได้รับตำแหน่งกัปตันทีมเมื่อปี 2023 หลังจากการย้ายทีมของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน "ไม่เคยมีความสงสัยเลยว่านี่คือที่ที่เหมาะสำหรับผมและครอบครัว" ฟาน ไดค์ กล่าว "มีคนเรียกผมว่าเป็น 'สเกาเซอร์จำแลง' ผมภูมิใจมากที่ได้ยินแบบนั้น […]