ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม นิตยสาร Forbes ได้เปิดเผยผลสำรวจ 6 อาชีพที่มีความเสี่ยงจะถูก AI เข้ามาแทนที่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว
อันดับแรก งานธุรการ ที่เน้นการป้อนข้อมูล จัดเรียงเอกสาร และตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่ง AI สามารถทำได้รวดเร็วและแม่นยำกว่า ตามมาด้วยงานบริการลูกค้า ที่ AI สามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตอบสนองได้ทันที
อาชีพที่สาม คืองานด้านการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ AI สามารถทำงานได้ต่อเนื่องไม่มีเหนื่อย ส่วนอันดับสี่คือพนักงานแคชเชียร์ ที่กำลังถูกแทนที่ด้วยระบบสแกนอัตโนมัติที่ลูกค้าสามารถบริการตนเองได้
อาชีพที่ห้า กราฟิกดีไซน์ แม้ AI อาจขาดความคิดสร้างสรรค์ แต่สามารถสร้างงานออกแบบพื้นฐานได้รวดเร็ว และสุดท้ายคือนักแปล ที่แม้ AI จะมีข้อจำกัดด้านบริบททางวัฒนธรรม แต่สามารถแปลภาษาพื้นฐานได้หลายภาษาในเวลาอันรวดเร็ว
CISAC องค์กรด้านการปกป้องลิขสิทธิ์ระดับโลก เผยว่าในอุตสาหกรรมบันเทิง อาชีพนักแปลซับไตเติ้ลได้รับผลกระทบหนักที่สุด คาดการณ์ว่ารายได้จะลดลงถึง 50% ภายในปี 2028 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของ AI ต่อตลาดแรงงาน
3. งานด้านการผลิต
4. พนักงานแคชเชียร์
การตัดสินใจเลือก รุด ฟาน นิสเตลรอย มาเป็นกุนซือคนใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ตกอยู่ภายใต้ข้อสงสัยของใครหลายคนหลังโค้ชชาวดัตช์ไม่สามารถช่วยเปลี่ยนชะตากรรมของสโมสรอย่างที่คาดหวัง มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง อาร์เซน่อล ในฐานะกูรูลูกหนังเมืองผู้ดีเปิดเผยผ่าน เลสเตอร์ ซิตี้ นิวส์ ถึงอนาคตของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ว่าจะนั่งเก้าอี้กุนซือของทีมจิ้งจอกอีกนานแค่ไหน หลังการทำผลงานย่ำแย่แพ้ 7 เกมติดต่อกันบนเวทีพรีเมียร์ลีกจนสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น เลสเตอร์ ซิตี้ เลือก ฟาน นิสเตลรอย เป็นกุนซือคนใหม่หลังการปลด สตีฟ คูเปอร์ ออกจากตำแหน่ง แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของสโมสร ปัจจุบันทีมจิ้งจอกยังอยู่อันดับ 19 ของตารางพรีเมียร์ลีก หลังเก็บได้เพีบง 14 คะแนนจากการลงเล่น 22 เกม บรรดาผู้บริหารของสโมสรคาดหวังว่าการแต่งตั้ง ฟาน นิสเตลรอย จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จากผลงานการคุมทีม 10 เกมแรกของกุนซือชาวดัตช์ ปรากฎว่าพวกเขาคว้าชัยชนะเพียงสองครั้งและปราชัยตลอด 7 เกมหลังสุดจนมีแฟนบอลส่งเสียงโห่ไล่บอสวัย 48 ปีหลังเกมพ่ายคารังต่อ คริสตัล […]
มาริซซา อันโตนิโอ พยาบาลวัย 39 ปี เปิดใจถึงการต่อสู้กับมะเร็งตับก้อนใหญ่ 19 เซนติเมตร พร้อมแบ่งปันสัญญาณเตือนสำคัญที่นำไปสู่การวินิจฉัยและรักษาทันเวลา
ซายูมิ มิจิชิเกะ วัย 35 ปี ตัดสินใจอำลาวงการหลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิต เตรียมจัดคอนเสิร์ตส่งท้าย กลางปี 2024 ท่ามกลางความอาลัยของแฟนคลับทั่วโลก