หลังจากที่ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ถูกควบคุมตัวและไม่ได้รับการประกันตัว ชาวเน็ตจำนวนมากต่างสงสัยถึงชะตากรรมของ "เมียหรั่ง" และ "เจ๊นุช" สองสาวที่เป็นเสมือนมือขวาและมือซ้ายของแม่ตั๊ก กรกนก วันนี้เราจะพาไปรู้จักทั้งสองคนให้มากขึ้น
"เมียหรั่ง" หรือ "นางเอกโค่" เป็นที่รู้จักจากคลิปไวรัลที่พูดตามแม่ตั๊ก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สนิทกันราวกับทองแผ่นเดียวกัน ทำคอนเทนต์ในแนวเดียวกัน ทั้งแจกเงิน ช่วยเหลือผู้ยากไร้ และคืนกำไรสู่สังคม เมียหรั่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
ชีวิตในวัยเด็กของเมียหรั่งไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเป็นลูกสาวของพ่อชาวนครศรีธรรมราชและแม่ชาวหาดใหญ่ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธออายุ 5 ขวบ ทำให้เธอต้องอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง ซึ่งมีลูกติดมาด้วยถึง 3 คน รวมกับลูกติดของพ่ออีก 2 คน ทำให้เธอต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในบ้านหลังเดียวกันถึง 7 คน
ชีวิตของเธอในตอนนั้นลำบากมาก ต้องทำงานบ้านสารพัด ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า และต้องเดินไปโรงเรียนไกลถึงวันละ 12 กิโลเมตร ถึงขั้นต้องไปขอข้าววัดกิน
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเมียหรั่งเกิดขึ้นเมื่อเธอได้พบกับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ โดยเพื่อนที่เป็นน้องชายของป๋าเบียร์แนะนำให้รู้จัก แม่ตั๊กชวนเธอมาทำงานด้วย เริ่มจากการแพ็กของ และงานอื่นๆ ในบริษัท ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมากหลังจากมาอยู่กับแม่ตั๊ก เหมือนพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ส่วน "เจ๊นุช บางเตย" หรือ "เจ๊นุช สาวบางเตย" เป็นอีกคนสนิทของแม่ตั๊ก ที่เรียกได้ว่าเป็น "มือซ้าย" แม่ตั๊กเคยทุ่มเงินซื้อกำไลข้อมือราคา 2 แสนบาทให้เป็นของขวัญวันเกิด และรถปอร์เช่ราคา 9 ล้านบาทให้เป็นการเซอร์ไพรส์
เจ๊นุชเป็นแม่ค้าไลฟ์สด อดีตลูกแม่บ้านโรงงานที่เคยลำบาก ติดหนี้ แต่พลิกชีวิตมารวยอู้ฟู่ได้เพราะ "แม่ตั๊ก" จนกลายเป็นตัวแทนยอดขายร้อยล้านภายในเวลาเพียง 4 ปี เธอผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ ขายโปรตีนและอาหารเสริมภายใต้แบรนด์ L.D. ของแม่ตั๊ก กรกนก
ด้วยสไตล์การขายตรงไปตรงมา ไลฟ์สดแบบบ้านๆ โชว์ตัวตนที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร พูดคุย สร้างความสนุกสนาน จนทำให้มียอดขายถล่มทลาย เคยไลฟ์ได้มากสุดถึง 1.2 ล้านบาท
ทั้งเมียหรั่งและเจ๊นุชต่างมีจุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก แต่ด้วยความขยันและโอกาสที่ได้รับจากแม่ตั๊ก ทำให้ชีวิตของทั้งคู่พลิกผันสู่ความสำเร็จ กลายเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ และเป็นกำลังสำคัญในการทำคอนเทนต์และธุรกิจของแม่ตั๊ก กรกนก
ปัจจุบัน เซนต์ เจมส์พาร์ค สนามเหย้าของ "เดอะ แม็กพายส์" มีความจุ 52,305 ที่นั่ง โดยผู้บริหารสโมสรได้สำรวจความเป็นไปได้ในเรื่องสนามเหย้ามาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้เร่งขึ้นเมื่อกองทุนการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบียซื้อสโมสรแห่งนี้ มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับปรุงเซนต์เจมส์ พาร์ค และแม้กระทั่งการสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่บนพื้นที่แยกต่างหาก แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่าแผนการทั้งสองจะรวมกันได้ คอนเทนต์แนะนำ "ซิมิคาส" เชื่อดวลสเปอร์สไม่ง่าย แต่เล่นที่แอนฟิลด์แข้งลิเวอร์พูลพร้อมสู้ วิเคราะห์บอล !! คาราบาว คัพ นิวคาสเซิ่ล พบ อาร์เซน่อล รอบรองฯ นัดสอง 5 ก.พ.68 AFP/ANDY BUCHANAN เซนต์ เจมส์พาร์ค สนามเหย้าของนิวคาสเซิ่ล รายงานจากThe Telegraph ระบุว่า ผู้บริหารของนิวคาสเซิ่ลกำลังพิจารณาเสนอแผนขยายสนามใหม่มูลค่า 1.2 พันล้านปอนด์ โดยจะมีความจุเกือบ 70,000 ที่นั่งให้กับเจ้าของสโมสรชาวซาอุดีอาระเบีย โดยแผนดังกล่าวมีแรงผลักดันที่เพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นความทะเยอทะยานอย่างยิ่งใหญ่ หากได้รับการอนุมัติจากเจ้าของแล้ว นิวคาสเซิ่ล จะมีสนามเหย้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยสนามแห่งนี้จะสร้างขึ้นโดยใช้พื้นที่ทับซ้อนพื้นที่บางส่วนของเซนต์เจมส์ พาร์ค ในปัจจุบัน […]
ฮือฮา! กล้วยออกเครือยาว100 หวี ชาวบ้านไม่พลาดตีเลขเด็ด หวังลุ้นโชคลาภ 16 เม.ย. น่าเสียดายหวยออกเฉียดไปนิดชาวบ้านในพื้นที่ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ต่างฮือฮาหลังพบต้นกล้วยประหลาด ออกเครือยาวกว่า 2 เมตร มีหวีกล้วยนับร้อยหวี และผลกล้วยนับพันลูก โผล่อยู่ภายในรั้วบ้านของ ลุงสมควร เจริญขวัญ อายุ 55 ปี ข้าราชการประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล (สพป.สตูล) สร้างความสนใจให้ผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคอหวยที่ไม่พลาดตีเลขเด็ดกันสนั่น ตรวจหวย 16 เมษายน 2568 ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล หวย 16/4/68 ชาวนาเจอ "ท่อนไม้ประหลาด" เก็บกลับบ้านหวังเป็นเศรษฐี แต่ลูกเห็นหน้าซีด รีบแจ้งตำรวจ! บ้านของลุงสมควร ตั้งอยู่เลขที่ 424 หมู่ 2 ตำบลคลองขุด พบต้นกล้วยขนาดใหญ่รวมกันเป็นกอ โดยมีอยู่ 2 ต้นที่ออกเครือกล้วยลักษณะผิดปกติ เครือกล้วยห้อยยาวเกือบถึงพื้น ยาวกว่า 2 เมตร และมีหวีกล้วยเรียงต่อกันนับได้มากกว่า 100 หวี […]
เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 2 สนามมวยลุมพินี “พลเอกสุชาติ แดงประไพ” อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก และอดีตนายสนามมวยลุมพินี ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการร่วมมือและสนับสนุนระบบมวยไทย เพื่อประโยชน์ในระยะยาวและการยกระดับสู่วงการระดับโลก อีกทั้งยังพูดถึงภาพรวมของปัญหาวงการมวยไทย ภายในการประชุม “พลเอกสุชาติ” ได้กล่าวถึงภาพรวมของปัญหาในวงการมวยไทย พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาในหลายมิติ ดังนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการแทรกแซงในกีฬามวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติครูมวยและกรรมการซึ่งมีผลต่อการจัดการองค์ความรู้ของมวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักมวย และวิธีฝึกการเทรนนิ่งของนักมวยปัญหาในสนามมวยมาตรฐานหดหายลงในการมอบสิทธิประโยชน์ผู้ชมทางบ้านกับเพิ่มขึ้นปัญหาการขาดได้ค่าตัวของสนามมวยจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดผ่านทีวีปัญหา กฎ กติกา และการตัดสิน ที่ยังไม่เป็นมาตรฐานมุมมอง ทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อ ของคนไทย ต่อมวยไทยผ่านการถ่ายทอดสด แต่ไม่นิยมเข้าสนามมวยข้อจำกัดในภาพใหญ่ของกลุ่มคนที่อำนวยประโยชน์วงการมวยการขาดการศึกษา และแนวทางในการรองรับความต้องการของตลาดมวยไทยองค์กรกับมวยไทย ในภาพรวมทั้งระบบ ขาดเอกภาพและการบูรณาการร่วมกัน การบริหารงานที่ไม่เชื่อมโยงกัน การพัฒนามวยไทยไม่มีประสิทธิภาพและไร้ทิศทาง และขาดการสร้างแผนงานระยะยาว ทั้งนี้ พลเอกสุชาติ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจังและความห่วงใยต่อวงการมวยไทยว่า “ขออีกอย่างหนึ่ง สนามกีฬาแห่งนี้ควรเป็นสนามกีฬา 100 เปอร์เซ็นต์ ปราศจากการแทรกแซง ผมอยากขอร้องรายการ ‘วันลุมพินี’ ถือเป็นรายการที่ยืนยันได้แล้วว่าสามารถพามวยไทยไปสู่เวทีโลกเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งมั่นจะสร้างมวยไทยให้ยิ่งใหญ่ และให้คนไทยภูมิใจ ผมขอร้องอีกครั้งครับ ขอพี่น้องทั้งหมดได้โปรดเมตตาพวกเราเถอะครับ ขอความร่วมมือ ขอความอนุเคราะห์ ต่อรายการวันลุมพินี ให้กับประเทศไทยเถอะครับ […]