กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศทั่วประเทศ พบมวลอากาศเย็นปกคลุม ส่งผลให้หลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น พร้อมฝนตกบางแห่ง เตือนประชาชนดูแลสุขภาพและระวังการสัญจรในพื้นที่ที่มีหมอกหนา
ข่าวดีสำหรับผู้ที่รอรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท! ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนและผ่านเกณฑ์โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาททุกคน จะได้รับเงินครบถ้วนตามที่รัฐบาลสัญญาไว้ โดยจะมีการทยอยจ่ายตามกลุ่มอายุ ซึ่งประเด็นนี้สร้างความโล่งใจให้กับประชาชนจำนวนมากที่กำลังรอคอยและสงสัยว่าตัวเองจะได้รับเงินเมื่อไหร่
สำหรับกลุ่มอายุ 20-59 ปี ที่เป็นกลุ่มใหญ่ของโครงการและหลายคนยังไม่ได้รับเงินงวดแรก ทางรัฐมนตรีช่วยฯ ระบุว่า กำหนดการจ่ายเงินงวดถัดไปจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะทยอยโอนเงินให้กับผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้วและยังไม่ได้รับในรอบแรก ตามลำดับการลงทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการโอนเงินให้ครบทุกคน
"ผมขอยืนยันว่า ทุกคนที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินครบ 10,000 บาทแน่นอน ไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหมดหรือโครงการจะยกเลิกกลางคัน" นายเผ่าภูมิกล่าว "การทยอยจ่ายเป็นเพราะต้องการให้ระบบสามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันปัญหาระบบล่มเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในโครงการคนละครึ่ง"
สำหรับกลุ่มที่ได้รับเงินไปแล้วในรอบแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ทางรัฐบาลรายงานว่าโครงการดำเนินไปด้วยดี มีการใช้จ่ายเงินผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ทในร้านค้าที่ร่วมโครงการอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น และยารักษาโรค ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
ส่วนประชาชนที่ลงทะเบียนแล้วแต่ตรวจสอบสถานะพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ นายเผ่าภูมิแนะนำให้ยื่นอุทธรณ์ผ่านเว็บไซต์ของโครงการได้ทันที โดยชี้แจงเหตุผลและแนบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน "เราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้อุทธรณ์ เพราะอาจมีข้อผิดพลาดในระบบข้อมูล หรือประชาชนอาจกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งหากข้อมูลถูกต้องและผ่านเกณฑ์จริง ก็จะได้รับสิทธิ์เช่นกัน" นายเผ่าภูมิกล่าว
ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการคลังระบุว่า มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 22 ล้านคน และผ่านการตรวจสอบสิทธิ์แล้วประมาณ 14 ล้านคน โดยได้รับเงินในรอบแรกไปแล้วประมาณ 5 ล้านคน ส่วนที่เหลืออีก 9 ล้านคนจะทยอยได้รับเงินในรอบถัดไป ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 มีนาคม 2568 นี้
"เงินหมื่นบาทนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศได้ไม่น้อย" นายเผ่าภูมิกล่าวทิ้งท้าย "ผมอยากให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการนี้ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย และจะไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน"