หลังจากเหตุการณ์รถบัสไฟไหม้ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเกิดความกังวลไม่กล้าให้ลูกหลานไปทัศนศึกษา แต่การเรียนรู้วิธีรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินอาจช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางได้
สำหรับโรงเรียนที่จัดโครงการทัศนศึกษา ควรปฏิบัติตามระเบียบของ สพฐ. ในการเลือกยานพาหนะ โดยต้องเช่าจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น รถทุกคันต้องมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วน เช่น เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก สัญญาณไฟฉุกเฉิน และทางออกฉุกเฉิน
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการให้ทุกคนเรียนรู้วิธีใช้งานทางออกฉุกเฉิน ซึ่งอาจเป็นหน้าต่างที่ต้องใช้ค้อนทุบที่มุมกระจก หรือประตูทางออกฉุกเฉินที่มีคันโยกสำหรับเปิด นอกจากนี้ควรตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง ทั้งแบตเตอรี่ ยางล้อรถ ช่วงล่าง ระบบเบรก และระบบไฟส่องสว่าง
ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตและผ่านการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลก่อนเดินทาง สำหรับเส้นทางที่เป็นภูเขาลาดชันหรือคดเคี้ยว ควรใช้รถชั้นเดียวเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
หากเกิดเหตุไฟไหม้บนรถบัส ผู้โดยสารควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเอาตัวรอด:
- มีสติ อย่าตื่นตระหนก เพื่อหลีกเลี่ยงการเหยียบกันหรือบาดเจ็บเพิ่มเติม
- หาทางออกฉุกเฉินทันที โดยสังเกตตำแหน่งประตูและหน้าต่างฉุกเฉินตั้งแต่ขึ้นรถ
- ใช้ค้อนทุบกระจกที่ติดไว้ใกล้หน้าต่างฉุกเฉิน หากไม่สามารถออกทางประตูได้
- ก้มตัวต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงควัน เนื่องจากควันจะลอยขึ้นด้านบน
- อย่าห่วงของส่วนตัว ให้รีบหนีออกมาให้เร็วที่สุด
- หากเสื้อผ้าติดไฟ ให้หยุดวิ่งและกลิ้งตัวไปบนพื้นเพื่อดับไฟ
- ตะโกนขอความช่วยเหลือ หากไม่สามารถหาทางออกได้
เมื่อออกจากรถได้แล้ว ให้รีบโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เบอร์ 191 หรือ 1669 ทันที
การเรียนรู้และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความสูญเสียได้อย่างมาก ทั้งผู้ปกครอง ครู และนักเรียนควรตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้รับประสบการณ์ที่ดี โดยไม่ต้องกังวลจนเกินไป