อดีตนักการเมืองชื่อดัง สิระ เจนจาคะ ได้เปิดเผยภาพถ่ายขณะรับมอบแฟลชไดรฟ์สีแดงจากคุณหนิง อาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
ในแวดวงการคุ้มครองผู้บริโภคของไทย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญและน่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับประวัติและผลงานของ พ.ต.อ.ประทีป รวมถึงประเด็นร้อนล่าสุดที่ทำให้ชื่อของเขากลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง
การศึกษาและพื้นฐานทางกฎหมาย
พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ มีพื้นฐานการศึกษาที่แข็งแกร่งทางด้านกฎหมาย โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโททางนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งความรู้ทางกฎหมายนี้ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในเวลาต่อมา
ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.ประทีปได้สั่งสมประสบการณ์ในวงการตำรวจมาอย่างยาวนาน โดยเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็น
ประสบการณ์เหล่านี้ได้หล่อหลอมให้ พ.ต.อ.ประทีปมีทักษะการบริหารและการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่ง
หลังจากเข้าสู่วงการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.ประทีปได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว โดยเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ดังนี้
1. ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง
2. เลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
3. ผู้อำนวยการสำนักแผน และการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค
4. รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
ผลงานเด่น
ในฐานะรองเลขาธิการ สคบ. พ.ต.อ.ประทีปมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิผู้บริโภคสูง การทำงานในตำแหน่งนี้จึงต้องอาศัยทั้งความรู้ทางกฎหมายและประสบการณ์ในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ประเด็นร้อนข่าวลือบริษัทขายตรงที่เป็นข่าวล่าสุด
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ชื่อของ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง เมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างนักธุรกิจรายหนึ่งกับนักการเมือง โดยมีการกล่าวอ้างถึงการใช้อำนาจแต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ประทีปขึ้นดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สคบ. และดูแลธุรกิจขายตรง
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ประทีปได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ โดยระบุว่าไม่มีอำนาจในการกระทำดังกล่าว ขณะที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้
มุมมองต่ออนาคตของการคุ้มครองผู้บริโภคไทย
ประสบการณ์อันหลากหลายของ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ทั้งในวงการตำรวจ และการคุ้มครองผู้บริโภค สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของงานด้านนี้ อีกทั้งข่าวลือล่าสุดที่เกิดขึ้นยังเป็นบททดสอบสำคัญต่อความโปร่งใส และประสิทธิภาพของระบบคุ้มครองผู้บริโภคไทย
เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 2 สนามมวยลุมพินี “พลเอกสุชาติ แดงประไพ” อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก และอดีตนายสนามมวยลุมพินี ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการร่วมมือและสนับสนุนระบบมวยไทย เพื่อประโยชน์ในระยะยาวและการยกระดับสู่วงการระดับโลก อีกทั้งยังพูดถึงภาพรวมของปัญหาวงการมวยไทย ภายในการประชุม “พลเอกสุชาติ” ได้กล่าวถึงภาพรวมของปัญหาในวงการมวยไทย พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาในหลายมิติ ดังนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการแทรกแซงในกีฬามวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติครูมวยและกรรมการซึ่งมีผลต่อการจัดการองค์ความรู้ของมวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักมวย และวิธีฝึกการเทรนนิ่งของนักมวยปัญหาในสนามมวยมาตรฐานหดหายลงในการมอบสิทธิประโยชน์ผู้ชมทางบ้านกับเพิ่มขึ้นปัญหาการขาดได้ค่าตัวของสนามมวยจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดผ่านทีวีปัญหา กฎ กติกา และการตัดสิน ที่ยังไม่เป็นมาตรฐานมุมมอง ทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อ ของคนไทย ต่อมวยไทยผ่านการถ่ายทอดสด แต่ไม่นิยมเข้าสนามมวยข้อจำกัดในภาพใหญ่ของกลุ่มคนที่อำนวยประโยชน์วงการมวยการขาดการศึกษา และแนวทางในการรองรับความต้องการของตลาดมวยไทยองค์กรกับมวยไทย ในภาพรวมทั้งระบบ ขาดเอกภาพและการบูรณาการร่วมกัน การบริหารงานที่ไม่เชื่อมโยงกัน การพัฒนามวยไทยไม่มีประสิทธิภาพและไร้ทิศทาง และขาดการสร้างแผนงานระยะยาว ทั้งนี้ พลเอกสุชาติ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจังและความห่วงใยต่อวงการมวยไทยว่า “ขออีกอย่างหนึ่ง สนามกีฬาแห่งนี้ควรเป็นสนามกีฬา 100 เปอร์เซ็นต์ ปราศจากการแทรกแซง ผมอยากขอร้องรายการ ‘วันลุมพินี’ ถือเป็นรายการที่ยืนยันได้แล้วว่าสามารถพามวยไทยไปสู่เวทีโลกเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งมั่นจะสร้างมวยไทยให้ยิ่งใหญ่ และให้คนไทยภูมิใจ ผมขอร้องอีกครั้งครับ ขอพี่น้องทั้งหมดได้โปรดเมตตาพวกเราเถอะครับ ขอความร่วมมือ ขอความอนุเคราะห์ ต่อรายการวันลุมพินี ให้กับประเทศไทยเถอะครับ […]
วงการกอล์ฟโลกยังคงเดือดดุเดือดในปี2025 นี้ เมื่อเหล่าสุดยอด นักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก ที่มีชื่อเสียงต่างแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล วัย 33 ปี ตัดสินใจต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีก 2 ปี หลังสัญญาเดิมกำลังจะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แนวรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีความลังเลใจที่จะอยู่กับหงส์แดงต่อไป โดยระบุว่า "มันต้องเป็นลิเวอร์พูลเท่านั้น มันอยู่ในหัวผมเสมอ และมันคือแผนของผมมาตลอด" ก่อนหน้านี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ ก็เพิ่งเซ็นต่อสัญญาใหม่กับสโมสรออกไปอีก 2 ปี เช่นกันฟาน ไดค์ ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ และกลายเป็นหัวใจในแนวรับของทีมมาอย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามให้สโมสรไปแล้ว 314 นัด และได้รับตำแหน่งกัปตันทีมเมื่อปี 2023 หลังจากการย้ายทีมของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน "ไม่เคยมีความสงสัยเลยว่านี่คือที่ที่เหมาะสำหรับผมและครอบครัว" ฟาน ไดค์ กล่าว "มีคนเรียกผมว่าเป็น 'สเกาเซอร์จำแลง' ผมภูมิใจมากที่ได้ยินแบบนั้น […]