เปิดโปง! ธุรกิจขายตรงที่เป็นข่าว เลือกใช้ดาราดัง หลอกลวงผู้บริโภคทั่วประเทศ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา วงการธุรกิจและสื่อบันเทิงไทยต้องสั่นสะเทือนกับข่าวอื้อฉาวของบริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ไม่เหมาะสม โดยอาศัยชื่อเสียงของดาราและคนดังมาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงผู้บริโภค ส่งผลให้มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วประเทศ
ต้นตอของเรื่องราวการเปิดโปงโดยพิธีกรชื่อดัง
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงพฤติกรรมน่าสงสัยของบริษัทขายตรงรายใหญ่แห่งหนึ่ง โดยระบุว่า:
"เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง แต่ไม่มีใครสนใจจะเซฟผู้เสียหายบ้างเลยหรือ?"
โพสต์ดังกล่าวได้จุดประกายให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ โดยมีทั้งผู้ที่ออกมาสนับสนุนและแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากการเปิดเผยของกรรชัย ได้มีบุคคลหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
- กันจอม พลัง เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายจำนวนมาก ยืนยันถึงความรุนแรงของปัญหา
- ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แนะนำให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัท เพื่อปกป้องผู้เสียหายจำนวนมาก
- ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายราย เรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะเกี่ยวกับดาราที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัท
การเปิดโปงเพิ่มเติมจากเพจดัง
เพจที่มีชื่อเสียงหลายแห่งได้ร่วมกันเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงที่กำลังเป็นประเด็น:
เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ"
- เผยแพร่ภาพดาราหลายคนที่ร่วมโปรโมทบริษัท
- ระบุว่าบริษัทมียอดขายกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี
- เน้นย้ำว่าดาราเหล่านี้ไม่ใช่เพียงพรีเซนเตอร์ แต่มีตำแหน่งสำคัญในบริษัท
เพจ "บิ๊กเกรียน"
- เปิดเผยกรณีของ คริสโตเฟอร์ เบญจกุล อดีตดาราที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการ ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจ
- วิพากษ์วิจารณ์การใช้คนพิการเป็นเครื่องมือทางธุรกิจ
- ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของผู้นำทีมขายตรง
การช่วยเหลือผู้เสียหาย
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม (CRSJ Foundation) ได้ออกมาประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยเชิญชวนให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือทางกฎหมายและคำปรึกษา
บทสรุป
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงปัญหาในธุรกิจขายตรงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลก่อนการลงทุนหรือเข้าร่วมธุรกิจใดๆ นอกจากนี้ ยังเป็นการเตือนสติให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเชื่อถือการโฆษณาที่ใช้บุคคลมีชื่อเสียงเป็นพรีเซนเตอร์
ในขณะที่การสืบสวน และการดำเนินการทางกฎหมายยังคงดำเนินต่อไป สังคมไทยจำเป็นต้องพิจารณาถึงมาตรการป้องกันและการสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต