การตัดไฟฟ้าที่บ้านของผู้ป่วยติดเตียง ในจังหวัดนครพนมนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจ เมื่อยายวัย 68 ปีเสียชีวิตหลังจากถูกตัดไฟเพียงไม่กี่ชั่วโมง เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับความรับผิดชอบและการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง
การยอมรับความผิดพลาดของการไฟฟ้า
นายทวี สราญรมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองนครพนม ยอมรับว่ามีการตัดไฟบ้านของนางเกียน ลี้พล ผู้ป่วยติดเตียงวัย 68 ปี จริง โดยพนักงานบริษัทเอกชนที่รับจ้างจากการไฟฟ้าเป็นผู้ดำเนินการ เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09:20 น. และไฟฟ้าถูกตัดเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 29 นาที
ไทม์ไลน์ของโศกนาฏกรรม
09:20 น. - พนักงานเอกชนมายกหม้อมิเตอร์และตัดไฟฟ้า
10:49 น. - มีการชำระเงินในระบบ
11:49 น. - เจ้าหน้าที่มาติดตั้งมิเตอร์คืน
คืนวันเดียวกัน - นางเกียนเสียชีวิต
ความบกพร่องในระบบ ปัญหาที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม
การตรวจสอบพบว่าไม่มีการบันทึกในระบบว่าบ้านหลังนี้เป็นที่พักของผู้ป่วยติดเตียง แม้ว่าญาติจะได้แจ้งกับพนักงานที่มาตัดไฟแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังพบว่าบ้านหลังนี้เคยได้รับการยกเว้นค่าไฟฟ้ามานานกว่า 7 เดือน เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ
สาเหตุของการค้างชำระ
- เดือนเมษายน 2567 ค้างชำระ จำนวน 348 บาท
- เดือนพฤษภาคม 2567 ค้างชำระ 350 บาท
- เดือนสิงหาคม 2567 ค้างชำระ 620 บาท
- เดือนกันยายน 2567 ค้างชำระ 534 บาท
การใช้อุปกรณ์การแพทย์ทำให้ค่าไฟฟ้าเกินเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด ส่งผลให้เกิดยอดค้างชำระ
การตอบสนองต่อวิกฤต ความพยายามในการเยียวยา
นายทวียืนยันว่าการไฟฟ้าไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าการตัดไฟเป็นสาเหตุโดยตรงของการเสียชีวิต แต่ทางการไฟฟ้าก็พร้อมที่จะรับผิดชอบและหาทางช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย
มาตรการเยียวยาเบื้องต้น
- มอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท
- สนับสนุนน้ำดื่มสำหรับงานศพ
- ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสวดอภิธรรมศพ
บทเรียนราคาแพง การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้การไฟฟ้าต้องทบทวนนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการให้บริการแก่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่เปราะบาง นายทวีกล่าวว่าจะมีการวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก
แนวทางการแก้ไขในอนาคต
- ปรับปรุงระบบการบันทึกข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นผู้ป่วยหรือผู้พิการ
- เพิ่มความยืดหยุ่นในการพิจารณาการตัดไฟสำหรับกรณีพิเศษ
- ฝึกอบรมพนักงานและบริษัทรับเหมาให้มีความเข้าใจและความละเอียดอ่อนมากขึ้น
เสียงจากครอบครัวผู้สูญเสีย ความเจ็บปวดที่ไม่อาจประเมินค่า
แม้ว่าทางการไฟฟ้าจะพยายามเยียวยา แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่อาจประเมินค่าได้ ญาติของผู้เสียชีวิตยังคงเชื่อว่าการตัดไฟเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการของยายทรุดลงจนเสียชีวิต
"สรุปคือ อยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเมตตาเห็นใจช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสียตามความเหมาะสม สำคัญอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่ต้องปรับปรุง ไม่อยากให้เกิดกับใครซ้ำอีก ขอเป็นรายสุดท้าย" - หลานสาวผู้เสียชีวิตกล่าว
การเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับครอบครัวผู้สูญเสียเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงระบบการให้บริการสาธารณูปโภคแก่กลุ่มเปราะบางในสังคม การสร้างความสมดุลระหว่างการบริหารจัดการทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่จำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีกในอนาคต