วิกฤตน้ำล้น เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เตือนภัย 3 ตำบลเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 สถานการณ์น้ำที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ เข้าสู่ภาวะวิกฤต หลังปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกินระดับเก็บกักสูงสุด ส่งผลให้ต้องมีการระบายน้ำฉุกเฉิน และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำในคืนนี้
สถานการณ์น้ำล่าสุดที่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล เปิดเผยว่า ณ เวลา 07.00 น. ของวันที่ 25 กันยายน 2567 เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีปริมาณน้ำ 277.166 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 104.59% ของความจุเขื่อน ซึ่งเกินระดับเก็บกักสูงสุดที่ 398.26 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.)
มาตรการรับมือ
จากการประเมินสถานการณ์ คาดว่าปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำส่วนเกินจำเป็นต้องระบายผ่านอาคารทางระบายน้ำฉุกเฉิน โดยมีอัตราการระบายอยู่ที่ 50-200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ผลกระทบและพื้นที่เสี่ยงภัย
สถานการณ์น้ำล้นเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ประกอบกับปริมาณน้ำในลำน้ำปิงที่มีระดับสูง อาจส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งลำน้ำแม่งัด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตรของประชาชน ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย 3 ตำบล ได้แก่
1. ตำบลบ้านเป้า
2. ตำบลช่อแล
3. ตำบลอินทขิล
โดยคาดว่าผลกระทบจะเริ่มปรากฏตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่26 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
สถานการณ์น้ำในเขื่อนสำคัญภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลแล้ว ยังมีเขื่อนอื่นๆ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีระดับน้ำสูงเกิน 80% ของระดับเก็บกัก ดังนี้
ภาคเหนือ
1. เขื่อนกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง 111% (189 ล้าน ลบ.ม.)
2. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 87% (8,268 ล้าน ลบ.ม.)
3. เขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง 82% (87 ล้าน ลบ.ม.)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1. เขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี 99% (134 ล้าน ลบ.ม.)
2. เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร 93% (482 ล้าน ลบ.ม.)
3. เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ 85% (1,675 ล้าน ลบ.ม.)
คำแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
1. ติดตามประกาศและคำเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
2. เตรียมพร้อมอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหากได้รับแจ้งเตือน
3. ยกของมีค่าและเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ในที่สูง
4. เตรียมอาหาร น้ำดื่ม และยาที่จำเป็นให้เพียงพอ
5. หลีกเลี่ยงการเดินทางหรือทำกิจกรรมใกล้แหล่งน้ำในช่วงวิกฤต
สถานการณ์น้ำล้นเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด