สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ ทรงเข้ารับการผ่าตัดหลังทรงล้ม

สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ ทรงเข้ารับการผ่าตัดหลังทรงล้ม วังญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับพระอาการของสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ หลังจากที่พระองค์ทรงประสบอุบัติเหตุล้มภายในพระตำหนักที่ประทับ ส่งผลให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดกระดูกโคนขาขวาอย่างเร่งด่วน

พระอาการและการรักษา

สำนักพระราชวังอิมพีเรียลได้เปิดเผยว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ พระชนมายุ 89 พรรษา ทรงประสบอุบัติเหตุล้มภายในพระตำหนักที่ประทับ ส่งผลให้ทรงมีพระอาการปวดบริเวณพระเพลา (ขา) ด้านขวา จากการตรวจวินิจฉัยโดยคณะแพทย์ พบว่าพระองค์ทรงมีกระดูกโคนขาขวาหัก จึงจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

นายคาซูฮิโระ จูบูกิ โฆษกสำนักพระราชวังอิมพีเรียล ได้แถลงว่า การผ่าตัดจะดำเนินการในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งเป็นสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น

ประวัติและความสำคัญของ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ

สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะทรงเป็นพระมเหสีในอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และทรงเป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะองค์ปัจจุบัน พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงสถาบันกษัตริย์ญี่ปุ่นให้ทันสมัยและใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น

การเสกสมรสที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์

สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะทรงเป็นสตรีสามัญชนพระองค์แรกที่ได้เสกสมรสกับรัชทายาทแห่งราชวงศ์อิมพีเรียล เมื่อปี พ.ศ. 2502 การอภิเษกสมรสครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดรับความทันสมัยของราชวงศ์

พระราชกรณียกิจสำคัญ

ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดินี พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลและการส่งเสริมวัฒนธรรมญี่ปุ่น นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างของสตรีญี่ปุ่นในยุคใหม่ที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างหน้าที่ในฐานะพระราชินีและบทบาทของมารดา

สุขภาพและความห่วงใยของประชาชน

การเข้ารับการผ่าตัดครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงได้รับการวินิจฉัยว่าทรงเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะแรกเมื่อปี พ.ศ. 2562 ซึ่งสร้างความห่วงใยให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

ในโอกาสที่พระองค์จะทรงมีพระชนมายุครบ 90 พรรษาในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ประชาชนชาวญี่ปุ่นต่างส่งกำลังใจและภาวนาให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว เพื่อให้สามารถกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่นต่อไป