ค่ายหนังชื่อดังประกาศยุติสัญญากับ พิมเจล หลังเกี่ยวข้องกับคดีรุ่นพี่สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง ขณะที่ พีม-โอชิ ถูกออกหมายจับและนำตัวฝากขัง สะท้อนปัญหาการใช้ความรุนแรงในสังคม
เส้นทางความรักของ ต่อ ธนภพ และ มีน ชุติญา เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่ต่อเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงใหม่ๆ เขาเลือกที่จะเปิดเผยตรงไปตรงมาว่ากำลังคบหากับสาวนอกวงการ ซึ่งต่อมาถูกเปิดเผยว่าคือ มีน ชุติญา แต่การเปิดตัวครั้งนั้นกลับนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
เมื่อภาพของมีนถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ เธอต้องเผชิญกับคำวิจารณ์มากมาย ทั้งเรื่องความไม่เหมาะสม การถูกมองว่าไม่สวยพอที่จะคู่ควรกับพระเอกดัง และยังถูกกล่าวหาว่าหวังพึ่งเงินฝ่ายชาย แต่ต่อก็ยืนหยัดปกป้องคนรัก ไม่สนใจเสียงวิจารณ์เหล่านั้น ขณะที่มีนก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการเรียนจนจบและได้งานเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินชั้นนำ
แม้จะผ่านไปหลายปี แต่การบูลลี่ก็ยังไม่จางหาย จนกระทั่งวันหนึ่ง มีนได้เปิดใจผ่านอินสตาแกรมสตอรี่ถึงความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับมาตลอด 5 ปี เธอเขียนด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นว่า "ฉันอาจจะไม่ได้สวย ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง แต่ฉันไม่เคยทำร้ายใคร ฉันแค่ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่อยากสนับสนุนคนที่รักในทุกโปรเจกต์"
ตลอดระยะเวลา 13 ปี ทั้งคู่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย มีนพยายามรักษาภาพลักษณ์ที่ดี ไม่เคยโพสต์อะไรที่ไม่เหมาะสมหรือทำร้ายความรู้สึกของแฟนคลับต่อ แต่แล้วในช่วงปลายปี 2567 แฟนๆ ก็เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งการที่ไม่มีรูปคู่และการที่ต่อไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ของมีนเหมือนเคย จนในที่สุด ต่อก็ออกมายอมรับว่าทั้งคู่ได้ตัดสินใจถอยความสัมพันธ์ออกมา ปิดฉากความรักอันยาวนาน 13 ปีลงด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน
เรื่องราวของต่อและมีนไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวความรัก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความอดทน การต่อสู้กับแรงกดดันจากสังคม และการพิสูจน์ตัวเองของคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เพียงเพราะรักกับคนที่มีชื่อเสียง แม้ความรักจะจบลง แต่บทเรียนและความทรงจำตลอด 13 ปีจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการบันเทิงไทย
เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 2 สนามมวยลุมพินี “พลเอกสุชาติ แดงประไพ” อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก และอดีตนายสนามมวยลุมพินี ได้เป็นประธานในการประชุมหารือแนวทางการร่วมมือและสนับสนุนระบบมวยไทย เพื่อประโยชน์ในระยะยาวและการยกระดับสู่วงการระดับโลก อีกทั้งยังพูดถึงภาพรวมของปัญหาวงการมวยไทย ภายในการประชุม “พลเอกสุชาติ” ได้กล่าวถึงภาพรวมของปัญหาในวงการมวยไทย พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาในหลายมิติ ดังนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการแทรกแซงในกีฬามวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติครูมวยและกรรมการซึ่งมีผลต่อการจัดการองค์ความรู้ของมวยไทยปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักมวย และวิธีฝึกการเทรนนิ่งของนักมวยปัญหาในสนามมวยมาตรฐานหดหายลงในการมอบสิทธิประโยชน์ผู้ชมทางบ้านกับเพิ่มขึ้นปัญหาการขาดได้ค่าตัวของสนามมวยจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดผ่านทีวีปัญหา กฎ กติกา และการตัดสิน ที่ยังไม่เป็นมาตรฐานมุมมอง ทัศนคติ ค่านิยมและความเชื่อ ของคนไทย ต่อมวยไทยผ่านการถ่ายทอดสด แต่ไม่นิยมเข้าสนามมวยข้อจำกัดในภาพใหญ่ของกลุ่มคนที่อำนวยประโยชน์วงการมวยการขาดการศึกษา และแนวทางในการรองรับความต้องการของตลาดมวยไทยองค์กรกับมวยไทย ในภาพรวมทั้งระบบ ขาดเอกภาพและการบูรณาการร่วมกัน การบริหารงานที่ไม่เชื่อมโยงกัน การพัฒนามวยไทยไม่มีประสิทธิภาพและไร้ทิศทาง และขาดการสร้างแผนงานระยะยาว ทั้งนี้ พลเอกสุชาติ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจังและความห่วงใยต่อวงการมวยไทยว่า “ขออีกอย่างหนึ่ง สนามกีฬาแห่งนี้ควรเป็นสนามกีฬา 100 เปอร์เซ็นต์ ปราศจากการแทรกแซง ผมอยากขอร้องรายการ ‘วันลุมพินี’ ถือเป็นรายการที่ยืนยันได้แล้วว่าสามารถพามวยไทยไปสู่เวทีโลกเรียบร้อยแล้ว เรามุ่งมั่นจะสร้างมวยไทยให้ยิ่งใหญ่ และให้คนไทยภูมิใจ ผมขอร้องอีกครั้งครับ ขอพี่น้องทั้งหมดได้โปรดเมตตาพวกเราเถอะครับ ขอความร่วมมือ ขอความอนุเคราะห์ ต่อรายการวันลุมพินี ให้กับประเทศไทยเถอะครับ […]
วงการกอล์ฟโลกยังคงเดือดดุเดือดในปี2025 นี้ เมื่อเหล่าสุดยอด นักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก ที่มีชื่อเสียงต่างแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล วัย 33 ปี ตัดสินใจต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีก 2 ปี หลังสัญญาเดิมกำลังจะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แนวรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าได้รับความสนใจจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีความลังเลใจที่จะอยู่กับหงส์แดงต่อไป โดยระบุว่า "มันต้องเป็นลิเวอร์พูลเท่านั้น มันอยู่ในหัวผมเสมอ และมันคือแผนของผมมาตลอด" ก่อนหน้านี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ ก็เพิ่งเซ็นต่อสัญญาใหม่กับสโมสรออกไปอีก 2 ปี เช่นกันฟาน ไดค์ ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ และกลายเป็นหัวใจในแนวรับของทีมมาอย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามให้สโมสรไปแล้ว 314 นัด และได้รับตำแหน่งกัปตันทีมเมื่อปี 2023 หลังจากการย้ายทีมของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน "ไม่เคยมีความสงสัยเลยว่านี่คือที่ที่เหมาะสำหรับผมและครอบครัว" ฟาน ไดค์ กล่าว "มีคนเรียกผมว่าเป็น 'สเกาเซอร์จำแลง' ผมภูมิใจมากที่ได้ยินแบบนั้น […]