หนุ่ม กรรชัย ฟ้อง "ลีน่าจัง" 5 ล้าน ยืนยันไม่ยอมความ แม้ขอโทษแล้ว

หนุ่ม กรรชัย ฟ้อง "ลีน่าจัง" 5 ล้าน ยืนยันไม่ยอมความ แม้ขอโทษแล้ว
Published: 01/10/2024

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ "ลีน่าจัง" ออกมาด่าและแช่งลูกของ หนุ่ม กรรชัย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับ "ลีน่าจัง" ต่อไป แม้ว่าอีกฝ่ายจะออกมาขอโทษแล้วก็ตาม

เหตุผลที่ "หนุ่ม กรรชัย" ตัดสินใจฟ้อง "ลีน่าจัง"

"หนุ่ม กรรชัย" เผยว่าเหตุผลที่ตัดสินใจฟ้อง "ลีน่าจัง" เพราะครั้งนี้ถือว่าล้ำเส้นเกินไป โดยเฉพาะการแช่งลูกสาวของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าเขารับเงิน 1 ล้านบาทจาก "แม่ตั๊ก กรกนก" ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง

ประเด็นสำคัญที่ "หนุ่ม กรรชัย" ไม่พอใจ

  1. การแช่งลูกสาวของเขา
  2. การกล่าวหาว่ารับเงิน 1 ล้านบาทจาก "แม่ตั๊ก กรกนก"
  3. การด่าทอและใช้คำหยาบคายต่อเขาเป็นเวลา 5 วัน

การฟ้องร้องและเงินค่าเสียหาย

"หนุ่ม กรรชัย" ยืนยันว่าจะฟ้องทั้งคดีอาญาและแพ่ง โดยเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ซึ่งเขาระบุว่าหากชนะคดีจะนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้กับหน่วยงานต่างๆ โดยไม่เก็บไว้เองแม้แต่สลึงเดียว

รายละเอียดการฟ้องร้อง

  • ฟ้องทั้งคดีอาญาและแพ่ง
  • เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท
  • หากชนะคดี จะนำเงินทั้งหมดไปบริจาค

จุดยืนของ "หนุ่ม กรรชัย" ต่อการวิพากษ์วิจารณ์

"หนุ่ม กรรชัย" ยืนยันว่าเขาเป็นบุคคลสาธารณะ สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างการวิจารณ์และการหมิ่นประมาท เขาเน้นย้ำว่าการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานถือเป็นการหมิ่นประมาท

ข้อควรระวังในการวิพากษ์วิจารณ์

  • สามารถวิจารณ์การทำงานได้
  • ไม่ควรกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน
  • ต้องแยกแยะระหว่างการวิจารณ์และการหมิ่นประมาท

ท่าทีต่อการขอโทษของ "ลีน่าจัง"

แม้ "ลีน่าจัง" จะออกมาขอโทษที่ สน.พญาไท แต่ "หนุ่ม กรรชัย" ยืนยันว่าจะไม่ยอมความ โดยให้เหตุผลว่าการขอโทษเพียงวันเดียวไม่เพียงพอกับการด่าทอเป็นเวลา 5 วัน เขาต้องการให้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานและจบลงที่ศาล

สรุป

เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีความรับผิดชอบ การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะควรอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและเคารพสิทธิส่วนบุคคล การกระทำที่ล้ำเส้นอาจนำไปสู่การฟ้องร้องและผลกระทบทางกฎหมายได้

ข่าวล่าสุด

ภาพชุด ‘ช้างศึก’กลับไทย เร่งฟื้นพลังล้างตา ‘ฟิลิปปินส์’

“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 97 ของโลก เดินทางกลับถึงไทย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ธ.ค. 67 หลังจากไปแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2024 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ริซาล เมโมเรียล สเตเดียม กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แพ้ “เจ้าถิ่น” ฟิลิปปินส์ ทีมอันดับ 150 ของโลก 1-2 โดยครึ่งแรก ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ยิงตีเสมอ ก่อนมาโดนยิงประตูชัยนาทีที่ 90+5 นับเป็นชัยชนะของฟิลิปปินส์ที่มีต่อไทย ครั้งแรกใน 52 ปี และเป็นชัยชนะครั้งแรกในรายการนี้ มีลุ้นเข้ารอบชิงชนะเลิศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนเกมที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เตะวันที่ 30 ธ.ค. 67 เวลา 20.00 น. นับผลรวม 2 นัด ไม่ใช้กฎอเวย์โกล ถ้าจบ 90 นาที […]

แม่จ๋าช่วยลูกที! รวมช็อต "สุดสยอง" ระดับตำนานวงการกีฬาโลก (ภาพ 18+)

ขึ้นชื่อว่า "กีฬา" นอกจากผู้เล่นจะได้ออกกำลังเรียกเหงื่อเป็นผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิและจิตใจ รวมไปถึงเป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าสังคมได้เป็นอย่างดีด้วย แต่ทุกอย่างย่อมมีข้อเสีย บางครั้งกีฬาก็สร้างความเจ็บปวดได้เช่นกัน โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องมีการปะทะ นับไม่ถ้วน ซึ่งการแตกหักหรือได้แผลเลือดสาดกระจาย ตัวอย่างในอดีตก็มีให้เห็นมากมาย ภาพชุดนี้ถือเป็นภาพถ่ายระดับตำนานของวงการกีฬาโลก รับชมให้เป็นอุทาหรณ์ ขอให้เล่นกีฬาอย่างระมัดระวังทุกคนครับ คำเตือน : โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม!

ทีมชาติไทย มุ่งหน้าสู่ สิงคโปร์ เตรียมดวลนัด 3 อาเซียน คัพ

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ รวมตัวกันออกเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 หรือ ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 3 ที่จะพบกับ สิงคโปร์ สำหรับ ทีมชาติไทย ผ่านสองเกมแรก ด้วยการเอาชนะ ติมอร์-เลสเต 10-0 และชนะ มาเลเซีย 1-0 ส่วนสิงคโปร์ ชนะ กัมพูชา 2-1 และชนะ ติมอร์-เลสเต 3-0  คอนเทนต์แนะนำ "อิชิอิ" ส่งข้อความขอโทษ "มาดามแป้ง" กรณีดราม่าหลังเกมชนะ มาเลเซีย ผลบอลไทย เปิดบ้านเฉือนชนะ มาเลเซีย ศึกอาเซียนคัพ 2024 "มาดามแป้ง" ชี้แจงยืนยันให้ความสำคัญกับแฟนบอลไม่คิดว่าเป็นดราม่า   สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทีมชาติไทย มุ่งหน้าสู่ สิงคโปร์ เตรียมดวลนัด […]

สงวนลิขสิทธิ์ © 2567
เกี่ยวกับเรา
นำเสนอข่าวสารและบทวิเคราะห์เชิงลึกด้านเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และสังคมทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมมุมมองที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในยุคข้อมูลข่าวสาร
แนะนำติชม แจ้งปัญหาการใช้งาน
ร่วมงานกับเรา
crossmenuchevron-down linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram