ดราม่าหนักที่กำลังสั่นสะเทือนวงการบันเทิงเกาหลี! สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคมว่า "คิมซูฮยอน" พระเอกซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงเกาหลีตกเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ หลังมีข่าวว่าเคยคบหาดูใจกับ "คิมแซรน" นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในปี 2015 ซึ่งขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น พร้อมกับมีข้อกล่าวหาหนักว่าเขาและต้นสังกัด Gold Medalist ได้กดดันให้เธอชำระหนี้สูงถึง 700 ล้านวอน
แม้ในตอนแรกคิมซูฮยอนจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าทั้งคู่เริ่มคบกันในช่วงปี 2019-2020 ซึ่งเป็นช่วงที่คิมแซรนบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่สถานการณ์กลับบานปลายมากขึ้นเมื่อครอบครัวของคิมแซรนได้ออกมาเปิดเผยข้อความสนทนาจากปี 2016 ที่คิมซูฮยอนส่งหาคิมแซรน ด้วยข้อความหวานหู เช่น "จูบจริงๆ ให้ฉันทีนะ" และ "ฉันคิดถึงเธอ" ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับพระเอกคนดังอย่างหนัก
ผลกระทบจากดราม่าครั้งนี้เริ่มปรากฏชัดเจนในวงการบันเทิง เมื่อทาง Disney+ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ประกาศเลื่อนการฉายซีรีส์ฟอร์มยักษ์ 'Knock-Off' ที่มีคิมซูฮยอนเป็นนักแสดงนำออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งที่การถ่ายทำซีซั่นแรกเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
มีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า คิมซูฮยอนได้รับค่าตัวจากการแสดงในซีรีส์เรื่องนี้รวมทั้งสิ้นสูงถึง 9,000 ล้านวอน และหากซีรีส์ถูกยกเลิกการฉายอย่างสมบูรณ์ เขาอาจต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายสูงสุดถึง 180,000 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,428 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากและอาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางการเงินของเขาอย่างหนัก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่าคิมซูฮยอนเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำมากถึง 16 แบรนด์ดัง ซึ่งอาจทำให้เขาต้องเผชิญกับค่าปรับเพิ่มเติมอีกประมาณ 22,000 ล้านวอน (ประมาณ 594 ล้านบาทไทย) หากถูกฉีกสัญญาเนื่องจากประเด็นข้อกล่าวหาที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางธุรกิจที่รุนแรงจากดราม่าในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ก็เดือดไม่แพ้กัน ชาวเน็ตจำนวนมากพากันแสดงความคิดเห็นเชียร์ให้ Disney ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคิมซูฮยอนแบบจัดเต็ม โดยมีความเห็นในทำนองเดียวกันว่า "น้อยไป ฟ้องให้มากกว่านี้", "เขาหาเงินเยอะ ฟ้องให้หนักเลย", "ดีมาก เอาเงินไปทำคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้พวกเราดู" แสดงให้เห็นถึงกระแสความไม่พอใจที่มีต่อพระเอกคนดังในขณะนี้
สถานการณ์นี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของคิมซูฮยอน ที่แม้จะเป็นพระเอกตัวท็อปที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานหลายปี แต่เพียงประเด็นดราม่าครั้งเดียวก็อาจทำลายทั้งชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และสถานะทางการเงินของเขาได้อย่างรุนแรง สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของอาชีพในวงการบันเทิงและผลกระทบจากการกระทำในอดีตที่อาจตามมาทวงบัญชีเมื่อไหร่ก็ได้
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าซีรีส์ 'Knock-Off' จะถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์หรือเพียงแค่เลื่อนการฉายออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ และคิมซูฮยอนจะต้องชดใช้ค่าเสียหายจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่จับตามองของสื่อและแฟนๆ ทั่วเอเชีย ว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของพระเอกคนดังรายนี้อย่างไรต่อไป