ดิไอคอน ถูกแฉ! 6 บอสโดนแจ้งจับฐานฉ้อโกงประชาชน

ดิไอคอน ถูกแฉ! 6 บอสโดนแจ้งจับ ฐานฉ้อโกงประชาชน วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เกิดเหตุการณ์สะเทือนวงการบันเทิง และธุรกิจออนไลน์ เมื่อทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรืออี้ แทนคุณ ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 6 ราย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ณ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

ดิไอคอน ธุรกิจลวงโลก 

ทนายตั้มได้เปิดเผยว่า ธุรกิจของดิไอคอน ไม่ได้เน้นการขายสินค้าจริง แต่มุ่งเน้นการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบของการสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่ โดยใช้ชื่อเสียงของบรรดาศิลปินดาราที่เป็นผู้บริหารเป็นจุดดึงดูด

กลยุทธ์การหลอกลวง

• จัดบรรยากาศหรูหราในการพบปะลูกค้า
• ใช้ศิลปินดาราเป็นเหยื่อล่อ
• อ้างผลตอบแทนสูงโดยไม่ต้องทำอะไร
• สร้างภาพลักษณ์ความมั่งคั่งผ่านสินค้าแบรนด์เนม

ผู้เสียหายร่ำไห้ เงินหายไปกับสัญญาลม

จากการสืบสวน พบว่ามีผู้เสียหายกว่า 700 ราย ที่หลงเชื่อและนำเงินไปร่วมลงทุนกับ **ดิไอคอน** โดยบางรายลงทุนสูงถึง 1 ล้านบาท แต่ได้รับผลตอบแทนเพียง 40,000 บาทเท่านั้น ทำให้หลายรายประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย

ตัวอย่างการลงทุน

• ดีลเลอร์ ลงทุน 250,000 บาท
• ผู้ลงทุนรายใหญ่ ลงทุนถึง 4 ครั้ง รวมกว่า 1 ล้านบาท

บทสรุปของความโลภ อนาคตที่ไม่สวยงามของ 6 บอส

ทนายตั้มเชื่อมั่นว่า จากหลักฐานที่มีอยู่ จะมีผู้บริหารอย่างน้อย 4 คนที่ต้องติดคุกอย่างแน่นอน ได้แก่ บอสพอล บอสกันต์ บอสปีเตอร์ และบอสหมอเอก โดยคาดว่าจะมีการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ซึ่งจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ในที่สุด

ข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง

• ฉ้อโกงประชาชน
• กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
• ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
• ฟอกเงิน

บทเรียนราคาแพง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังในการลงทุนกับธุรกิจที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง แม้จะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นผู้นำเสนอก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในอนาคต