โศกนาฏกรรมรสบัสไฟไหม้ ของนักเรียนและครูที่เดินทางมาจาก จังหวัดอุทัยธานี การเดินทางสุดท้ายของ 23 ชีวิต การสูญเสียครั้งใหญ่จากอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 23 ราย ทั้งนักเรียนและครูจากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เหตุการณ์นี้สร้างความโศกเศร้าให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและชาวอุทัยธานีทั้งจังหวัด
การเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตกลับบ้านเกิด
เมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 15.48 น. ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตชุดแรกจำนวน 4 ราย ออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มุ่งหน้าสู่จังหวัดอุทัยธานี โดยมีการจัดขบวนรถอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย
1. รถลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต
2. รถพยาบาลสำหรับญาติผู้เสียชีวิต
3. รถตำรวจทางหลวงนำขบวนและปิดท้าย
เส้นทางสู่บ้านเกิด
ขบวนรถได้เคลื่อนผ่านเส้นทางสำคัญของกรุงเทพมหานคร ก่อนมุ่งหน้าสู่จังหวัดอุทัยธานี
1. ขึ้นทางด่วนพระราม 4
2. ลงถนนดินแดง
3. วิ่งต่อบนถนนวิภาวดีรังสิต
4. แวะที่จุดเกิดเหตุเพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ
การเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตถูกวางแผนเป็น 5 รอบ เพื่อให้การจัดการเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ระหว่างทาง มีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
การเตรียมการรับศพที่จังหวัดอุทัยธานี
การจัดการพิธีทางศาสนาทางจังหวัดอุทัยธานี ได้เตรียมการรับศพผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติ โดยมีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม 6 คืน ณ หอประชุมโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม พร้อมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 7 ตุลาคม 2567
การดูแลครอบครัวผู้สูญเสีย
จังหวัดอุทัยธานี ได้จัดเตรียมทีมแพทย์จากกรมสุขภาพจิต จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีการดำเนินการดังนี้
- ประเมินความเสี่ยงด้านความเศร้า และความเครียด
- คัดแยกกลุ่มเสี่ยงเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด
- ให้คำปรึกษา แนะนำแก่ผู้ปกครอง และญาติของผู้เสียชีวิต
มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
รัฐบาลได้สั่งการให้ใช้หลักเกณฑ์เยียวยาสูงสุด สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยมีการดำเนินการดังนี้
- จัดสรรเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
- ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
- ติดตามและประเมินผลการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
พระมหากรุณาธิคุณ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยจะมีการพระราชทานเพลิงศพให้กับทุกราย
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนสำคัญในการเพิ่มความระมัดระวัง และมาตรการความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต