ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ศรีลังกา ครั้งล่าสุด นายอนุรา กุมารา ดิสนายาเก วัย 55 ปี จากพรรคแนวร่วมปลดปล่อยประชาชน (JVP) ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงของประชาชนชาวศรีลังกา หลังจากประสบวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรง
ชัยชนะที่น่าประหลาดใจของผู้นำฝ่ายซ้าย
ดิสนายาเก ผู้มีแนวคิดมาร์กซิสต์ ได้รับคะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านเสียง ซึ่งมากกว่าผู้สมัครรายอื่นอย่างมีนัยสำคัญ ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของศรีลังกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงประวัติทางการเมืองของดิสนายาเกและพรรค JVP ที่เคยนำการประท้วงรุนแรงในอดีต
จากนักการเมืองชายขอบ สู่ผู้นำประเทศ
ในอดีต ดิสนายาเกเคยเป็นเพียงนักการเมืองที่ไม่มีอิทธิพลมากนัก แต่วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2022 ได้เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่าง จนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
การฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ศรีลังกา ยังคงเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรง แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าช่วงวิกฤตในปี 2022 แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ดิสนายาเกจึงต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชน
การสร้างสมดุลระหว่างอุดมการณ์ และความเป็นจริง
แม้จะมีแนวคิดทางการเมืองฝ่ายซ้าย แต่ดิสนายาเกได้แสดงท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้น โดยยืนยันว่าจะเดินหน้าตามแผนความช่วยเหลือของ IMF ที่รัฐบาลก่อนหน้าได้เจรจาไว้ แต่จะพยายามปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการเพื่อลดภาระภาษีของประชาชน
แนวทางการบริหารประเทศของดิสนายาเก
- การปฏิรูปเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างนโยบายเศรษฐกิจเสรีและการดูแลสวัสดิการของประชาชน
- การต่อต้านคอร์รัปชัน สัญญาว่าจะปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังเพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารประเทศ
- การสร้างความปรองดอง พยายามลดความขัดแย้งทางการเมืองและสร้างความสามัคคีในชาติ
- การพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ศรีลังกา กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำของดิสนายาเก ท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงและการฟื้นฟูประเทศอย่างแท้จริง การเดินหน้าของรัฐบาลใหม่ จะเป็นบททดสอบสำคัญว่า แนวคิดทางการเมืองแบบใหม่ จะสามารถนำพาศรีลังกาออกจากวิกฤตและสร้างอนาคตที่สดใสได้หรือไม่