เตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดเชียงราย หลังฝนตกหนัก 3 วันติด

วันที่ 1 สิงหาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในหลายพื้นที่ของจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำเภอแม่สาย ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา

ระดับน้ำในแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมา ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนใต้สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ทำให้เทศบาลตำบลแม่สายต้องปิดถนนเส้นดังกล่าวชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำสายอยู่ที่ประมาณ 3.50 เมตร ในขณะที่ระดับตลิ่งอยู่ที่ 4.06 เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤติ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนริมน้ำและพื้นที่ใกล้เคียงให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมขนย้ายข้าวของมีค่าไปไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงราย ได้รายงานปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยพบว่าในเขตตำบลตับเต่า อำเภอเทิง มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงถึง 149 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกหนักที่สุดในจังหวัด ส่วนอำเภออื่นๆ มีปริมาณน้ำฝนสะสมอยู่ระหว่าง 38-86 มิลลิเมตร
แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงในพื้นที่ แต่ทางการได้เน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพหากสถานการณ์แย่ลง ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้เกิดสภาวะอากาศรุนแรงและไม่แน่นอนมากขึ้น ประชาชนจึงควรตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา