สุวรรณภูมิเผยสาเหตุลิฟต์ทับคนงานเสียชีวิต อ้างไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัย

เหตุการณ์สลดเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่างซ่อมบำรุงรายหนึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกลิฟต์ทับ สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก ล่าสุดทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ตามรายงานจากทางสนามบิน ผู้เสียชีวิตคือนายวิเศษรัตน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงประจำท่าอากาศยาน โดยทางสนามบินระบุว่า สาเหตุเบื้องต้นของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด จึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ทันทีที่เกิดเหตุ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยละเอียด นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับทีมนิติเวชวิทยาให้เข้ามาตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของผู้เสียชีวิตเอง หรือมีสาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของลิฟต์

แม้ว่าทางสนามบินจะระบุถึงการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยเป็นสาเหตุหลัก แต่การสอบสวนอย่างละเอียดยังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเช่นการซ่อมบำรุงลิฟต์ ซึ่งต้องอาศัยความระมัดระวังและการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด

ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันที่จะนำมาใช้ในอนาคต แต่คาดว่าจะมีการทบทวนและปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจมีการจัดอบรมเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนเพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

ในขณะเดียวกัน ทางสนามบินยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต แต่โดยทั่วไปแล้ว ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ทางหน่วยงานมักจะมีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามกฎหมายแรงงานและนโยบายขององค์กร

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกองค์กรในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน และเป็นเครื่องเตือนใจให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต