เหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มวัย 30 ปี ชื่อ "อาเป่า" เสียชีวิตหลังจากทำงานติดต่อกันเป็นเวลา 104 วัน โดยได้หยุดพักเพียง 1 วันเท่านั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน
อาเป่าเริ่มทำงานเป็นช่างทาสีให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยถูกส่งไปทำงานที่โครงการในเมืองโจวซาน เขาทำงานทุกวันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2566 โดยได้หยุดพักเพียงวันเดียวคือวันที่ 6 เมษายน 2567
วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 อาเป่าลาป่วยเนื่องจากรู้สึกไม่สบาย และพักผ่อนที่หอพัก แต่อาการของเขาแย่ลงอย่างรวดเร็ว จนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลในวันที่ 28 พฤษภาคม แพทย์วินิจฉัยว่าเขามีการติดเชื้อในปอดและระบบหายใจล้มเหลว สุดท้ายอาเป่าเสียชีวิตในวันที่ 1 มิถุนายน 2567
ครอบครัวของอาเป่าได้ยื่นฟ้องเรียกค่าชดเชย โดยกล่าวหาว่าบริษัทละเลยหน้าที่ ในขณะที่บริษัทอ้างว่างานที่อาเป่าทำไม่หนักเกินไป และการทำงานล่วงเวลาเป็นไปโดยสมัครใจ
ศาลตัดสินว่าการทำงานติดต่อกันเป็นเวลา 104 วันของอาเป่านั้น เป็นการละเมิดกฎหมายแรงงานของจีนอย่างชัดเจน ซึ่งกำหนดให้ทำงานได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือเฉลี่ยไม่เกิน 44 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ศาลจึงตัดสินให้บริษัทต้องรับผิดชอบ 20% ต่อการเสียชีวิตของอาเป่า และสั่งจ่ายค่าชดเชยให้กับครอบครัวของเขาเป็นจำนวน 400,000 หยวน (ประมาณ 2 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึง 10,000 หยวนสำหรับความทุกข์ทางจิตใจ
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการใช้แรงงานเกินขีดจำกัดในประเทศจีน และกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับสิทธิแรงงานและความรับผิดชอบของนายจ้างต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง วันที่ 25 พฤษภาคม 2024 เขาลาป่วยเนื่องจากรู้สึกไม่สบาย และ พักผ่อนอยู่ที่หอพัก ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม 2024 อาการของอาเป่าแย่ลงอย่างรวดเร็ว เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเพื่อนร่วมงาน และ ได้รับการวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อในปอด และ ระบบหายใจล้มเหลว โดยเขาเสียชีวิตในวันที่ 1 มิถุนายน 2024