ย้อนรอยคำพูดผู้บริหารซีเอ็ด เปิดใจต่อการให้เด็กนั่งอ่านหนังสือในร้าน

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กนักเรียนที่ใช้พื้นที่ร้านหนังสือเป็นที่นั่งอ่านและทำกิจกรรม บทสัมภาษณ์เก่าของคุณเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระและผู้บริหารซีเอ็ด ที่ให้ไว้กับ The Momentum เมื่อ 5 ปีก่อน ได้ถูกนำมาเผยแพร่อีกครั้ง สะท้อนมุมมองที่น่าสนใจต่อประเด็นดังกล่าว

คุณเกษมสันต์เล่าถึงความฝันของเขาที่อยากเปิดร้านหนังสือให้เป็นแลนด์มาร์ก เป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถมายืนถ่ายรูปและอ่านหนังสือได้ฟรี เขากล่าวว่า ร้านซีเอ็ดเอง ตอนโรงเรียนเลิกก็มีเด็กๆ เข้าร้านเป็นจำนวนมาก เรามีชั้นวางกระเป๋าให้วาง ก็ไม่พอ ต้องไปวางตรงพื้น ที่ร้านมีแต่เด็กๆ นั่งอ่านหนังสือกันตรงพื้น ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังว่า เด็กจะต้องมาซื้อหนังสือ ขอแค่มาอ่านเถอะ

แม้จะมีลูกค้าบางรายแสดงความไม่พอใจที่ไม่สามารถเข้าไปเลือกซื้อหนังสือได้เพราะมีเด็กนั่งเต็มพื้นที่ แต่คุณเกษมสันต์ก็ยืนยันจุดยืนของเขาว่า ปรัชญาของร้านคืออยากให้คนเข้ามาอ่านหนังสือ เราไม่มีเงินพอจะจัดสรรโต๊ะและเก้าอี้ให้ได้ อยากจะขอความเห็นใจว่า ถ้าจะมาซื้อหนังสือ ให้เลี่ยงมาในชั่วโมงนั้น ถ้าเด็กมาอ่านหนังสือแล้วมาไล่ คงจะใจร้ายไปหน่อย และขัดกับปรัชญาของเรา เราอยากเห็นเด็กอ่านหนังสือ ซื้อหรือไม่ก็เรื่องของเด็ก และต้องขอโทษผู้ใหญ่มา ณ ที่นี้

บทสัมภาษณ์นี้ได้รับการแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง โดยหลายคนแสดงความเห็นสนับสนุนแนวคิดของคุณเกษมสันต์ บางคนเล่าประสบการณ์ว่าร้านซีเอ็ดเป็นเหมือน บ้านหลังที่สอง สำหรับพวกเขาในวัยเด็ก แม้จะไม่ได้ซื้อหนังสือทุกครั้ง แต่การได้เข้าไปอ่านฟรีก็ช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก

นอกจากนี้ หลายคนยังชื่นชมที่ร้านซีเอ็ดเปิดโอกาสให้เด็กๆ เข้าถึงหนังสือราคาแพงที่พวกเขาอาจไม่มีกำลังซื้อ และยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่ต้องรอผู้ปกครองมารับหลังเลิกเรียน

แม้ว่าจะมีความท้าทายในการบริหารจัดการพื้นที่และความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย แต่แนวคิดของคุณเกษมสันต์ก็สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ในสังคมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งอาจเป็นแนวทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจร้านหนังสือในยุคดิจิทัลที่ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด