เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้นที่จังหวัดกระบี่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 กันยายน 2567 เมื่อพายุงวงช้างพัดถล่มหมู่บ้านชายฝั่งในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมือง สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับบ้านเรือนประชาชน
ตลอดทั้งวันจังหวัดกระบี่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. ได้เกิดพายุงวงช้างพัดเข้าฝั่ง ส่งผลให้บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมทะเลได้รับความเสียหายอย่างหนักถึง 20 หลังคาเรือน
ชาวบ้านเล่าว่า พายุพัดกระหน่ำตั้งแต่บริเวณร้านริมชลไปจนถึงแพปลาธีรศักดิ์ เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ด้วยความรุนแรงของพายุ ทำให้แรงลมพัดหลังคาบ้านปลิวหาย เสาอาคารหัก และโครงสร้างหลังคาบางส่วนปลิวหายไปในทะเล ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับความเสียหายอย่างมาก
ชาวบ้านต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างอลหม่าน ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แม้ว่าจะได้รับการแจ้งเตือนจากการพยากรณ์อากาศของจังหวัดแล้ว แต่เหตุการณ์พายุครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงเกินคาด ทำให้ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว
พายุพัดถล่มอยู่ประมาณ 30 นาทีก่อนจะสงบลง เมื่อชาวบ้านกลับเข้ามาตรวจสอบ พบว่าหลายครัวเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังคาที่ถูกพายุพัดปลิวไปไกล
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทยได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายเบื้องต้นและเตรียมการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งเฝ้าระวังสภาพอากาศที่อาจแปรปรวนในระยะต่อไป
เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว