"ฝีดาษลิง ระบาดใหม่ในไทย 5 เรื่องควรรู้ เพื่อป้องกันตัวเอง"

โรค ฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ mpox) กลับมาระบาดอีกครั้งในประเทศไทย หลังจากที่องค์การอนามัยโลก ประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน siamintelligence รวบรวม 5 เรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย

สถานการณ์ปัจจุบันของฝีดาษลิงในไทย

ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 พบผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 316 คน โดยกระจายตัวดังนี้

• กรุงเทพมหานคร: 198 คน
• ชลบุรี 22 คน
• นนทบุรี 17 คน
• สมุทรปราการ 12 คน

ช่วงอายุของผู้ป่วย ตั้งแต่ 

• 30-39 ปี 152 คน
• 20-29 ปี 85 คน
• 15-24 ปี 28 คน (เริ่มพบในกลุ่มเยาวชน)

ที่น่าตกใจคือ พบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดเพียง 16 ปี และมีผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศไทยแล้ว

อาการของโรคฝีดาษลิง และเมื่อไหร่ควรพบแพทย์

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำให้สังเกตอาการเบื้องต้นดังนี้

1. มีผื่นหรือตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย
2. มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย
3. ต่อมน้ำเหลืองโต (บวมแดงบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ)

หากพบอาการเหล่านี้ภายใน 21 วันหลังสัมผัสผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัย ให้รีบพบแพทย์ทันที

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหากติดเชื้อฝีดาษลิง ได้แก่

1. ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยมะเร็ง
2. ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
3. เด็กอายุน้อยกว่า 8 ปี
4. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

วิธีการติดต่อและการป้องกัน

ฝีดาษลิงติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะคนแปลกหน้า งดการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ล้างมือบ่อยๆ และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

หากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง ควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใกล้ชิดผู้อื่น สวมเสื้อผ้าที่ปกคลุมรอยโรคหรือตุ่ม หรือโทรสอบถามข้อมูลที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

การรักษาโรคฝีดาษลิง

• ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
• ระยะเวลาที่มีอาการประมาณ 2 - 4 สัปดาห์
• กลุ่มเสี่ยงจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อลดความเสี่ยงของอาการแทรกซ้อน
• ผู้ป่วยจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเมื่ออาการดีขึ้นและแผลหายสนิท

การระบาดของฝีดาษลิงครั้งใหม่นี้ เป็นสัญญาณเตือนให้ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจรุนแรงขึ้นในอนาคต