บ้านเก่าพังถล่มขณะรื้อถอน คนงานบาดเจ็บ 2 ราย รอดตายหวุดหวิด

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เกิดเหตุสลดขึ้นที่บ้านเลขที่ 411/74 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 แยก 2 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อบ้านเก่าอายุกว่า 40 ปีพังถล่มลงมาขณะกำลังทำการรื้อถอน ส่งผลให้คนงานได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

ร.ต.อ. ณัฐพงษ์ จริตงาม รองสารวัตรสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ได้รับแจ้งเหตุและรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยทีมแพทย์ฉุกเฉินและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 25 ตารางวา ขณะเกิดเหตุมีคนงาน 3 คนกำลังทำการรื้อถอน ประกอบด้วยนายจ่อ โม อายุ 33 ปี ชาวเมียนมา นายหนึ่ง อายุ 36 ปี ชาวเมียนมา และนายจ้าง

นายหนึ่งให้การว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสามคนกำลังยืนอยู่บริเวณกลางบ้าน จู่ๆ เสาปูนกลางบ้านก็หักลง ทำให้กำแพงปูนและพื้นชั้น 2 ถล่มลงมา โชคดีที่ทั้งสามคนกระโดดหลบออกมาได้ทัน แต่นายจ่อ โมได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกบาดที่แขนขวา ส่วนนายจ้างบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขา
นางวันดี ปรักแก้ว อายุ 86 ปี ญาติของเจ้าของบ้าน เล่าว่าบ้านหลังนี้มีอายุกว่า 40 ปีแล้ว โดยหลานของเธอเพิ่งซื้อต่อจากน้องชายและกำลังปรับปรุงใหม่เพื่อให้น่าอยู่ขึ้น

เจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามเคลื่อนย้ายซากบ้านที่พังลงมา เพื่อรอให้กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบความปลอดภัยก่อน จากนั้นจึงจะมีคำสั่งให้รื้อถอนหรืออนุญาตให้ก่อสร้างต่อไป

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับการรื้อถอนอาคารเก่า ที่ต้องมีการประเมินความเสี่ยงและใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นและคร่าชีวิตผู้ปฏิบัติงานได้