ดราม่าระอุ! "นก ยลดา" แสดงจุดยืนปกป้องนักชกแอลจีเรีย สวนกระแสวิจารณ์เรื่องเพศในวงการกีฬา

วันที่ 7 สิงหาคม 2567 วงการกีฬาและสังคมออนไลน์ต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ "นก ยลดา" หรือ ยลดา รัตนเกษตร นางงามข้ามเพศชื่อดังและผู้ชนะการประกวด Miss Fabulous Thailand Season 3 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีของ "อิมาเน เคลิฟ" นักชกสาวจากแอลจีเรีย ที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในวงการมวยสากลโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นก ยลดา โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า "เรื่องนักมวยหญิงจากแอลจีเรียและจีน ไม่มีรายงานว่าเคยผ่าแปลงเพศหรือเป็นอินเตอร์เซก แต่ตรวจโครโมโซมเป็น XY และมีฮอร์โมนชายสูง.. ฟังนะ โครโมโซมไม่ได้มีแค่ XX กับ XY และฮอร์โมนชายสูงก็มีในหญิงได้ ไม่ต้องใช้เป็นข้ออ้างอีก #ความหลากหลายทางเพศ" ข้อความนี้สร้างความสนใจและเกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์

การแสดงความคิดเห็นของนก ยลดา ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ตจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเธอ มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า "ไม่คิดจะพูดในแง่ความเป็นธรรมในการแข่งขันกีฬาบ้างเลยเหรอ", "เรียกร้องความเท่าเทียม แต่ดันลืม !!!! เรียกร้องความเป็นมนุษย์", "เรียกร้องความเท่าเทียม ❌ เรียกร้องความตลก ✅" เป็นต้น

ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากคือเรื่องความเป็นธรรมในการแข่งขันกีฬา โดยหลายคนมองว่าการที่นักกีฬามีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลต่อความยุติธรรมในการแข่งขัน โดยเฉพาะในกีฬาประเภทที่ต้องใช้พละกำลังอย่างมวยสากล

อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นของนก ยลดา ก็สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองอีกด้านหนึ่งในประเด็นนี้ โดยเธอพยายามชี้ให้เห็นว่าความหลากหลายทางชีวภาพของมนุษย์นั้นมีมากกว่าที่เรามักจะเข้าใจกัน และการตัดสินเพศของบุคคลโดยอาศัยเพียงลักษณะทางกายภาพหรือผลการตรวจทางการแพทย์บางอย่างอาจไม่เพียงพอ

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นประเด็นถกเถียงในวงการกีฬาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างความเข้าใจและการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมปัจจุบัน รวมถึงความซับซ้อนในการกำหนดกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรมสำหรับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
ในท้ายที่สุด เรื่องนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยและถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับนิยามของเพศ ความเท่าเทียม และความยุติธรรมในวงการกีฬา ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนและปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคำนึงถึงทั้งความเท่าเทียมและความยุติธรรมสำหรับนักกีฬาทุกคน