"จตุพร พรหมพันธุ์ วิเคราะห์ผลกระทบการเสนอชื่อ 'แพทองธาร' เป็นนายกฯ คนที่ 31"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นผ่านการไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์การเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊ง" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย

ประเด็นสำคัญจากการวิเคราะห์ของนายจตุพร

การเสนอชื่ออุ๊งอิ๊งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทางการเมืองไทยครั้งใหม่ นายจตุพรมองว่าการเสนอชื่ออุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี อาจนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งใหม่ เนื่องจากความเชื่อมโยงกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหวในสังคมไทย การตัดสินใจนี้อาจกระตุ้นความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนานให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง

สังเกตภาษากายของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่แสดงความไม่มั่นใจในการสนับสนุน นายจตุพรชี้ให้เห็นถึงท่าทีที่ไม่เต็มใจของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในการสนับสนุนอุ๊งอิ๊ง สะท้อนถึงความไม่มั่นใจและความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคต

คาดการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ มีการประเมินว่าการขึ้นดำรงตำแหน่งของอุ๊งอิ๊งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลในระยะยาว

นายจตุพรแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการดำเนินนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย เช่น โครงการแจกเงินดิจิทัล การอนุญาตให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว และการจัดตั้งบ่อนคาสิโน ซึ่งอาจเผชิญกับการต่อต้านจากสังคมมากขึ้น

แสดงความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้การนำของอุ๊งอิ๊ง มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของอุ๊งอิ๊ง 

โดยเปรียบเทียบกับประสบการณ์ของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายจตุพรมองว่า แม้จะมีการสนับสนุนจากอดีตนายกฯ ทักษิณ แต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ซับซ้อน

นายจตุพรยังเน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคต พร้อมทั้งเตือนให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากการเมืองไทยมีความผันผวนสูง