“เพชรทนง” ไม่หวั่นความสูงจะอาศัยเก๋าสยบ “นาบิล”

“เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 39 ปี เตรียมทดสอบความแกร่งรุ่นน้องฟอร์มแรง “นาบิล อานาน” นักสู้ก้านยาว วัย 20 ปี เชื้อสายไทย-แอลจีเรีย-ฝรั่งเศส ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ในศึก ONE Fight Night 26 ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. วันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.นี้

สำหรับ “เพชรทนง” เคยคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต มาครองได้ หลังล้มแชมป์เก่า “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” จากญี่ปุ่น ในศึก ONE 163 เมื่อเดือน พ.ย.65 แต่ในช่วงกลางปีถัดมา เจ้าตัวถูกตรวจพบสารต้องห้ามในร่างกาย จนถูก ONE สั่งลงโทษห้ามแข่งขัน 1 ปี และถูกริบเข็มขัดคืนในทันที

ในช่วงดังกล่าว “เพชรทนง” ยังเตรียมพร้อมร่างกายสู้อย่างดี ล่าสุดพ้นโทษแบน คืนสังเวียนในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เอาชนะทีเคโอยก 2 “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” จากรัสเซีย ทำให้เจ้าตัวที่ตอนนี้รั้งอันดับ 3 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต พร้อมมุ่งมั่นกลับไปทวงคืนบัลลังก์ให้ได้

เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา “เพชรทนง”ได้เปิดค่ายมวยซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ ย่านบึงกุ่ม ที่เจ้าตัวใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมอยู่ในปัจจุบัน โชว์สภาพเนื้อตัวล่าสุดต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน พร้อมอัปเดตความพร้อมก่อนเผชิญหน้ากับ “นาบิล” รุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า 19 ปี และมีส่วนสูงมากกว่า 18 ซม. ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้

“ตอนนี้ความพร้อมน่าจะอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่มาฝึกเรื่องความคล่องตัว และเป็นการลดน้ำหนัก ตอนนี้ก็ไม่ได้กังวลอะไร พร้อมเต็มที่ สามารถชกภายในอาทิตย์นี้ได้เลยครับ

“จริง ๆ ผมซ้อมมาตลอดตั้งแต่ชกเสร็จในไฟต์ล่าสุด แต่ว่าผมไปซ้อมมวยสากลที่อเมริกาและแคนาดา หลังจากกลับมาก็ซ้อมมาตลอด และเมื่อ วัน แชมเปียนชิพ แจ้งว่ามีโปรแกรมชก ผมก็พร้อมเสมอครับ”

โดยการกลับมาชกครั้งนี้ “เพชรทนง” ต้องเจอกับงานสุดท้าทายอย่าง “นาบิล” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้ฟอร์มแรงหาคู่ชกด้วยยาก แต่เจ้าตัวเชื่อมั่นในความเก๋าเกมของตัวเอง และมองว่าจะฝ่าทุกอย่างไปได้แบบไม่มีปัญหา

“ผมว่า นาบิล เป็นนักกีฬาที่เก่ง ค่อนข้างแข็งแรง และดุดันด้วย เดินก็ได้ถอยก็ได้ มีหมัดขวาค่อนข้างดี แทงเข่าก็ดี ผมว่าอีกสัก 2 ปี ไม่น่าจะมีตัวสู้ด้วยใน วัน แชมเปียนชิพ ครับ”

“จริง ๆ เรื่องที่เสียเปรียบของผมก็คงมีแค่เรื่องของอายุ กับ ส่วนสูง แต่เชื่อเถอะว่าประสบการณ์ของผมไม่เสียเปรียบแน่นอน ผมชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งมาเป็นร้อยไฟต์แล้ว ถ้าสู้กันในกติกานี้ ผมได้เปรียบค่อนข้างเยอะ มันสมองที่ผมสะสมมากว่า 30 ปี รับมือได้ทุกอย่างแน่นอนครับ”

“แผนการชกในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะผมมองว่านักกีฬาจะมีการแก้เกมกันแบบช็อตต่อช็อตอยู่แล้ว ไม่ว่าน้องเขาจะมาแบบไหน ผมก็ต้องหาวิธีรับมือไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ผมไม่ได้หวังแค่ขึ้นไปชิงแชมป์เท่านั้น ผมยังคงต้องการกลับไปเป็นแชมป์ด้วยครับ”

แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 08.00 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH