เมื่อวานนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) รัสเซียได้ทำการโจมตีสถาบันการทหารในเมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน โดยยิงขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูก ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ราย และบาดเจ็บอีก 271 ราย นับเป็นการโจมตีครั้งเดียวที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำของยูเครน ได้แสดงความเห็นผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า "พวกรัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้อย่างแน่นอน" และ "เรากำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุด"
ฟิลิป โปรนิน ผู้ว่าการแคว้นปอลตาวา กล่าวว่าอาจมีผู้รอดชีวิตติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังประมาณ 15 ราย ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างเต็มที่
การโจมตีครั้งนี้สร้างความสะเทือนขวัญอย่างหนักให้กับประชาชนชาวยูเครน และยิ่งตอกย้ำถึงความรุนแรงของสงครามที่ยืดเยื้อมานาน การโจมตีสถาบันทหารยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัสเซียในการทำลายกำลังทหารและขวัญกำลังใจของฝ่ายยูเครน
ประชาคมโลกได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และเรียกร้องให้มีการยุติความขัดแย้งโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีทีท่าว่าทั้งสองฝ่ายจะหาทางออกร่วมกันได้ในเร็ววันนี้ ขณะที่ประชาชนยูเครนยังคงต้องเผชิญกับภัยสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด