ในยุคที่การดูแลสุขภาพและการวางแผนครอบครัวกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น ตลาดถุงยางอนามัยทั่วโลกก็กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายวิศิษย์ ฐิรายุวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินของบริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยชั้นนำของไทย ได้เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยทั่วโลก
ตามข้อมูลล่าสุด 5 ประเทศที่มีการใช้ถุงยางอนามัยมากที่สุดในโลกได้แก่:
1. จีน
2. สหรัฐอเมริกา
3. อินเดีย
4. อินโดนีเซีย
5. ญี่ปุ่น
การจัดอันดับนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยหลายประการ ทั้งจำนวนประชากร ระดับการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพทางเพศ และนโยบายสาธารณสุขของแต่ละประเทศ
ในส่วนของประเทศไทย แม้จะไม่ติดอันดับ 5 ประเทศแรก แต่ตลาดถุงยางอนามัยในไทยก็มีการเติบโตที่น่าสนใจ นายวิศิษย์เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดถุงยางอนามัยในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 7% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของตลาดโลก
การเติบโตของตลาดถุงยางอนามัยในไทยสะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ทั้งในแง่ของการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิด
นายวิศิษย์ยังเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการใช้ถุงยางอนามัย โดยระบุว่านอกจากจะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคจากคู่นอนแล้ว ยังเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
ข้อมูลนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการใช้ถุงยางอนามัยทั่วโลก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพทางเพศและการวางแผนครอบครัวในสังคมปัจจุบัน การเติบโตของตลาดถุงยางอนามัยทั้งในไทยและทั่วโลกเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าผู้คนให้ความสำคัญกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอยังคงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและผู้ผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในการป้องกันโรคและวางแผนครอบครัว