ฮิซบอลเลาะห์ โจมตีอิสราเอล ตอบโต้ล้างแค้นรุนแรง

ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล และฮิซบอลเลาะห์พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มติดอาวุธจากเลบานอนเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอย่างหนักในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม เพื่อแก้แค้นให้ผู้บัญชาการอาวุโสที่ถูกลอบสังหารในเบรุตเมื่อเดือนก่อน

ฮิซบอลเลาะห์อ้างว่ าสามารถยิงจรวดคัตยูชากว่า 320 ลูกและส่งโดรนโจมตีเป้าหมายทางทหาร 11 แห่งในอิสราเอล โดยระบุว่านี่เป็นเพียง "เฟสแรก" ของปฏิบัติการแก้แค้น และสัญญาว่าจะมีการตอบโต้ "แบบจัดเต็ม" ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลกลับอ้างว่า สามารถทำลายแผนการโจมตีของฮิซบอลเลาะห์ได้ล่วงหน้า โดยส่งเครื่องบินกว่า 100 ลำโจมตีจุดยิงจรวดของฝ่ายตรงข้ามในเลบานอนใต้ก่อน พร้อมทำลายลำกล้องยิงจรวดนับพันที่เล็งเป้าหมายมายังอิสราเอล

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการปะทะที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งระหว่างสองฝ่าย นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้นานาชาติเริ่มกังวลว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลาย โดยอาจดึงอิหร่านและสหรัฐอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้นำอิสราเอลต่างออกมาแสดงจุดยืนแข็งกร้าว โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องประเทศ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมโยอาฟ กัลแลนต์ ย้ำว่าอิสราเอลพร้อมทำทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชน

ด้านซาเยด ฮัสซัน นาสรัลลาห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ มีกำหนดแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดผ่านทางโทรทัศน์ในค่ำวันเดียวกัน สร้างความคาดหมายว่าอาจมีการประกาศปฏิบัติการตอบโต้เพิ่มเติม

แม้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอล แต่ทางการเลบานอนยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายจากการโจมตีของอิสราเอลต่อรถยนต์คันหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศ

สถานการณ์ล่าสุดนี้ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่ โดยมีการประกาศเตือนภัยและระงับเที่ยวบินที่สนามบินเบนกูเรียนในเทลอาวีฟชั่วคราว ขณะที่ทางการอิสราเอลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ

นานาชาติต่างจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐอเมริกาออกมายืนยันการสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล พร้อมระบุว่าจะดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ความขัดแย้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่มีความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มติดอาวุธ รัฐบาล และมหาอำนาจต่างๆ โดยทุกฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ แต่ก็พร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองอย่างเต็มที่