ความวุ่นวายเกิดขึ้นในวงการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อ เอเบเรชี่ เอเซ่ ปีกตัวจี๊ดของ คริสตัล พาเลซ เปิดเผยว่าผู้ตัดสิน แซม บาร์ร็อตต์ ได้เข้ามาขอโทษหลังจากปฏิเสธประตูจากลูกฟรีคิกสุดสวยของเขา ในเกมที่ทีม "อินทรีผงาด" บุกพ่ายแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม
จังหวะสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 27 เมื่อ เอเซ่ ซัดฟรีคิกเข้าประตูอย่างงดงาม แต่ บาร์ร็อตต์ กลับเป่านกหวีดยกเลิกประตู โดยอ้างว่า วิลล์ ฮิวจ์ส ผลัก เนธาน คอลลินส์ ก่อนที่บอลจะเข้าประตู ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญ
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือของ พาเลซ แสดงความคิดเห็นหลังเกมว่า "ทุกคนประหลาดใจที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเร็วมาก เราคิดว่ามันเป็นประตู แต่บอลยังไม่กระทบตาข่าย และผู้ตัดสินเป่านกหวีด มันจึงไม่นับเป็นประตู" เขายังเสริมว่าการที่ผู้ตัดสินยอมรับผิดแสดงถึงคาแรกเตอร์ที่ดี แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้
เหตุการณ์นี้ไม่สามารถตรวจสอบโดย VAR ได้ เนื่องจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดก่อนที่บอลจะข้ามเส้นประตู ซึ่งเป็นไปตามกฎของ พรีเมียร์ลีก
นอกจากประเด็นนี้ เกมยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น โดย เบรนท์ฟอร์ด นำก่อนจาก ไบรอัน เอ็มโบเม่ ในนาทีที่ 29 ก่อนที่ พาเลซ จะตีเสมอจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อีธาน พินน็อค ในนาทีที่ 56 และ โยอัน วิสซ่า ยิงประตูชัยให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 76
เหตุการณ์นี้ได้จุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในวงการฟุตบอล และความสำคัญของการตัดสินใจของผู้ตัดสินในสนาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขันและอารมณ์ของแฟนบอลอย่างมาก