รื่องราวชีวิตที่แสนลำบากของนายอุทัย แซ่เตีย อายุ 63 ปี ชายชราผู้ประกอบอาชีพเก็บของเก่าในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็น เมื่อต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกเล็กทั้ง 4 คนเพียงลำพัง หลังจากภรรยาวัย 36 ปี ติดยาเสพติดและหนีออกจากบ้านไปนานกว่า 1 ปีแล้ว
นายอุทัยเล่าว่า เขาเป็นชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยกำเนิด แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่นครศรีธรรมราชหลังจากแต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นคนในพื้นที่ พวกเขาเช่าบ้านหลังเล็กๆ ในตำบลปากพูน อำเภอเมือง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและประกอบอาชีพเก็บของเก่าตามถังขยะขายเลี้ยงครอบครัว แต่ชีวิตครอบครัวกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คาดหวัง เมื่อภรรยาของเขาเริ่มเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนในที่สุดก็ทิ้งลูกทั้ง 4 คนไว้ให้นายอุทัยเลี้ยงดูตามลำพัง
ลูกทั้ง 4 คนของนายอุทัยมีอายุตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือน จนถึง 9 ขวบ โดยคนโตเป็นเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 ที่โรงเรียนวัดศรีมงคล คนที่สองเป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนเดียวกัน ส่วนลูกสาวอีกสองคนอายุ 2 ปี 6 เดือน และ 1 ปี 6 เดือน ตามลำดับ
ชีวิตที่ยากลำบากของครอบครัวนี้ยิ่งทวีความยากลำบากขึ้นไปอีก เมื่อเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 สิงหาคม 2567 นายอุทัยประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถซาเล้งเร่เก็บของเก่า ถูกรถยนต์ชนรถซาเล้งได้รับความเสียหาย บนถนนอ้อมค่าย บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงแรมชฎา จนรถซาเล้งได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าคู่กรณีจะมีน้ำใจช่วยเหลือค่าซ่อมรถให้ 2,500 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม
สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยากจนอย่างแท้จริง ภายในบ้านเช่าที่แออัดเต็มไปด้วยเศษเหล็ก กระดาษลัง และขยะรีไซเคิลที่นายอุทัยเก็บมาขาย มีเพียงข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในสภาพเก่า เช่น พัดลม 14 นิ้วที่ไม่มีฝาครอบ
แม้จะได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากผู้นำท้องถิ่นและเทศบาลเมืองปากพูน ในเรื่องเงินสิทธิเด็กแรกเกิด เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ และได้รับนมและผ้าอ้อมจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และสหทัยมูลนิธิ แต่นายอุทัยยอมรับว่ายังไม่เพียงพอ เนื่องจากลูกทั้ง 4 คนอยู่ในวัยที่ต้องการการดูแลอย่างมาก
เรื่องราวของครอบครัวนี้ได้รับความสนใจจากสังคม และหลายภาคส่วนกำลังพยายามให้ความช่วยเหลือ รวมถึงสำนักพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชที่กำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามสิทธิและขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขานครศรีธรรมราช ในชื่อบัญชีของนายอุทัย แซ่เตีย
เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของครอบครัวหนึ่ง แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของปัญหาสังคมที่ซับซ้อน ทั้งเรื่องความยากจน ปัญหายาเสพติด และการดูแลผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขอย่างยั่งยืน,