กมลา แฮร์ริส แห่งสหรัฐฯ ประกาศเลือก ทิม วอลซ์ เป็นคู่หูชิงรองประธานาธิบดี

รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคเดโมแครต ประกาศเลือก ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาวัย 60 ปี เป็นคู่หูชิงรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

วอลซ์ มีประวัติที่น่าสนใจ เขาเคยเป็นสมาชิกกองกำลังพิทักษ์ชาติ (US Army National Guard) และดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมินนิโซตามาตั้งแต่ปี 2018 นอกจากนี้ ยังเคยเป็นครูสอนหนังสือ โค้ชฟุตบอล รวมถึงเป็นนักล่าสัตว์และผู้ครอบครองปืน ประสบการณ์ที่หลากหลายนี้ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ แฮร์ริส

กมลา แฮร์ริส วัย 59 ปี กลายเป็นผู้สมัครชิงประธานาธิบดีคนใหม่ ของพรรคเดโมแครต หลังจากที่ โจ ไบเดน วัย 81 ปี ตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ทีมหาเสียงของ แฮร์ริส สามารถระดมเงินบริจาคได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ สร้างความกระตือรือร้นให้กับฐานเสียงเดิมของพรรคเดโมแครต

ทิม เป็นผู้นำที่ผ่านบททดสอบมาแล้วมากมาย และได้สร้างผลงานที่น่าเชื่อถือในการช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกันในรัฐมินนิโซตา" แฮร์ริส กล่าวถึงคู่หูคนใหม่ของเธอ

วอลซ์ และ แฮร์ริส เริ่มออกเดินสายหาเสียงด้วยกันที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดย วอลซ์ กล่าวต่อผู้ฟังกว่า 10,000 คนที่มหาวิทยาลัย Temple University ถึงประสบการณ์ชีวิตของเขา รวมถึงการทำงานในกองกำลังพิทักษ์ชาติ 24 ปี และการเป็นครูสอนสังคมศึกษาและโค้ชฟุตบอล

ในฐานะผู้ว่าการรัฐ วอลซ์ มีส่วนผลักดันนโยบายก้าวหน้าหลายอย่าง เช่น โครงการอาหารโรงเรียนฟรี การกำหนดเป้าหมายเพื่อต่อสู้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดหย่อนภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และการเพิ่มวันลาให้แรงงาน

อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ไม่รอช้าที่จะโจมตี วอลซ์ ว่าเป็น "ลิเบอรัล" เช่นเดียวกับ แฮร์ริส และมีค่านิยมที่ไม่สอดคล้องกับคนอเมริกันส่วนใหญ่

การเลือก วอลซ์ เป็นคู่หูของ กมลา แฮร์ริส สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ทางการเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการดึงคะแนนเสียงจากรัฐแถบมิดเวสต์ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการตัดสินผลการเลือกตั้ง

แม้ว่า วอลซ์ จะมี "จุดอ่อน" บางประการ โดยเฉพาะในประเด็นการรับมือกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางเชื้อชาติในปี 2020 แต่ประสบการณ์ และภูมิหลังที่หลากหลายของเขา อาจเป็นจุดแข็งในการดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากหลายภาคส่วน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 กำลังจะเป็นการแข่งขันที่น่าติดตาม โดยมีทีม แฮร์ริส-วอลซ์ ต่อสู้กับผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในสมรภูมิทางการเมือง ที่มีความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงรออยู่เบื้องหน้า