เกาหลีใต้ได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามการบริโภคเนื้อสุนัขอย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นก้าวสำคัญในการยุติธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มายาวนาน กฎหมายฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อห้ามการทำฟาร์มสุนัขเพื่อการฆ่าและการจำหน่ายเนื้อสุนัขเพื่อการบริโภค
ตามรายงานจากกระทรวงเกษตร อาหาร และกิจการชนบทของเกาหลีใต้ กฎหมายฉบับนี้ส่งผลกระทบต่อกิจการฟาร์มสุนัขกว่า 5,625 แห่งทั่วประเทศ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบโดยจะมีการชดเชยให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเจ้าของฟาร์มสุนัข ร้านอาหารที่จำหน่ายเนื้อสุนัข และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัขเพื่อการบริโภค
กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกาหลีใต้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับผู้ฝ่าฝืน บุคคลใดที่ยังคงประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตเนื้อสุนัขจะต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 30 ล้านวอน (ประมาณ 774,370 บาท) ส่วนผู้ที่เลี้ยงสุนัขเพื่อการฆ่าหรือขายเพื่อนำเนื้อมาบริโภค จะต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 20 ล้านวอน (ประมาณ 516,246 บาท)
การประกาศใช้กฎหมายนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ แม้ว่าการบริโภคเนื้อสุนัขจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ในปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่จำเป็น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับกระแสการอนุรักษ์สัตว์และการตระหนักถึงสวัสดิภาพของสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและแรงงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลเกาหลีใต้จึงต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถปรับตัวและหาอาชีพทางเลือกได้ การดำเนินการนี้จะเป็นตัวอย่างสำคัญสำหรับประเทศอื่นๆ ที่กำลังพิจารณาการออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน