ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุการณ์สุดสยองขวัญที่วัดสลักเหนือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อนายจีระศักดิ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ลุงหมาน" อ้างว่าถูกวิญญาณของเพื่อนสนิทที่เพิ่งเสียชีวิตเข้าสิงร่าง ระหว่างพิธีศพของผู้ตาย เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ร่วมงานศพเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องวิญญาณและชีวิตหลังความตาย
เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่โดยคุณน้ำเพชร ผู้ที่บังเอิญเดินผ่านมาพบเหตุการณ์ดังกล่าว เธอเล่าว่าได้ยินลุงหมานพูดประโยคที่น่าขนลุกว่า "มึงเอากูขึ้นมาทำไม กูแค่เป็นลม" คล้ายกับว่าเขากำลังพูดกับภรรยาของผู้ตาย น้ำเพชรเชื่อว่านี่เป็นวิญญาณของผู้ตายที่มาสิงร่างลุงหมาน เนื่องจากผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดีและชอบพูดเล่นตลอดเวลา
ลุงหมานเองให้ข้อมูลว่า เขารู้สึกเหมือนไม่รู้ตัวและพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากที่วิญญาณออกจากร่างไปแล้ว เขารู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก แต่ไม่สามารถจำได้ว่าตนเองพูดอะไรออกไปบ้าง เหตุการณ์นี้สร้างความสับสนและตื่นตระหนกให้กับลุงหมานเป็นอย่างมาก
น.ส.ปอ ภรรยาของผู้ตาย ได้เล่าเพิ่มเติมว่า สามีของเธอมีอาการแน่นหน้าอกก่อนที่จะเสียชีวิต และเธอเชื่อว่าการที่วิญญาณของสามีเข้าสิงร่างลุงหมานนั้นเป็นการสื่อสารครั้งสุดท้าย เธอยังจำคำสัญญาสุดท้ายที่สามีบอกว่าจะพาไปกินหมูกระทะในวันเกิดของเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ เรื่องราวนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ได้รับฟังเป็นอย่างมาก
ครอบครัวและญาติของผู้ตายได้จัดพิธีฌาปนกิจศพอย่างเร็ว และต้องการให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และความทรงจำที่ยังคงมีอยู่ระหว่างคนที่เคยอยู่ด้วยกัน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความสูญเสียและการพรากจาก แต่ความทรงจำและความรักนั้นยังคงสื่อสารผ่านทางความเชื่อและจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง
เหตุการณ์นี้ได้จุดประเด็นการถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องวิญญาณและชีวิตหลังความตาย บางคนมองว่านี่เป็นหลักฐานของการดำรงอยู่ของวิญญาณ ในขณะที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นผลมาจากความเครียดและสภาพจิตใจที่อ่อนไหวในช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความเชื่อและความรักที่มีต่อการจัดการกับความสูญเสียและความเศร้าโศกของมนุษย์
ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องวิญญาณ เหตุการณ์นี้ก็ได้เตือนใจให้เราตระหนักถึงคุณค่าของความสัมพันธ์และการแสดงความรักต่อคนที่เรารักในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น และโอกาสในการแสดงความรักและความห่วงใยอาจหมดลงเมื่อไหร่ก็ได้