hello world!

"ก.พ.ค.ตร." ยืนยันคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย เปิดทางสู่การต่อสู้ในศาลปกครอง

Published: 06/08/2024

ความขัดแย้งในวงการตำรวจไทยดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อล่าสุด คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ กพคตร. ได้มีคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือที่รู้จักกันในนาม "บิ๊กโจ๊ก" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยชี้ว่าคำสั่งให้ออกจากราชการนั้นชอบด้วยกฎหมาย เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากกรณีที่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกท่านหนึ่ง ได้ลงนามในคำสั่งให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ ซึ่งนำไปสู่การฟ้องร้องและความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจ

ก่อนหน้านี้ ได้มีมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 0 เห็นชอบกับคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความชอบธรรมของคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังคงยืนยันที่จะต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อความเป็นธรรม จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ กพคตร. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจ

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 นายธวัชชัย ไทยเขียว หนึ่งในคณะกรรมการ กพคตร. และรองโฆษก กพคตร. ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงผลการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ร้องทุกข์ของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ โดยระบุว่า คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นชอบด้วยกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลนี้ทำให้สถานการณ์ยิ่งชัดเจนขึ้นว่า "บิ๊กโจ๊ก" จะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในการต่อสู้เพื่อกลับเข้ารับราชการ

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ทางกฎหมายของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากเขายังมีสิทธิ์ที่จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งผลการวินิจฉัยจาก กพคตร. ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม การตัดสินใจของศาลปกครองสูงสุดจะเป็นบทสรุปสุดท้ายของคดีนี้ และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการบริหารงานภายในองค์กรตำรวจ รวมถึงระบบการพิจารณาความดีความชอบและการลงโทษทางวินัยของข้าราชการตำรวจในอนาคต

กรณีนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบราชการไทย โดยเฉพาะในองค์กรตำรวจ ที่มักจะมีความขัดแย้งทางการเมืองภายในและการแย่งชิงอำนาจระหว่างกลุ่มต่างๆ การที่คดีนี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของความโปร่งใสและความยุติธรรมในการบริหารงานภาครัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากหน่วยงานที่มีหน้าที่รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยของสังคม

ในขณะที่สังคมไทยจับตามองการพัฒนาของคดีนี้ ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะเกิดการถกเถียงและพิจารณาถึงการปฏิรูประบบราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกระบวนการยุติธรรมและการบริหารงานบุคคลในองค์กรภาครัฐ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ข่าวล่าสุด

ได้ไปเท่าไหร่ เปิดตัวเลขเงินโบนัสที่ "แบงค็อก" ได้รับหลังชนะ "แทมปิเนส" ศึก "ACL 2"

เปิดตัวเลขเงินโบนัสที่ "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" ได้รับหลังชนะ "แทมปิเนส โรเวอร์ส" 4-2ใน ศึก "AFC Champions League Two" วันที่ 18 ก.ย. 67 ได้ไปเท่าไหร่ ไปดูกัน เปิดตัวเลขเงินโบนัสที่ "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก ภายใต้การนำทีม "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือชาวไทย ได้รับหลังชนะ แทมปิเนส โรเวอร์ส ทีมจากสิงคโปร์ 4-2ใน ศึก "AFC Champions League Two" ที่เพิ่งจบลงไป ทั้งนี้ เจ้าบ้าน "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ 4 ประตูจาก มูห์เซ็น อัล กาสซานี นาทีที่ […]

ส.บอลเตรียมจัดTalent IDสนาม6ที่นครสวรรค์

เดินหน้าภาค 6! สมาคมฯ เตรียมจัดโครงการ Talend ID 2024 (หญิง) ที่ นครสวรรค์ สัปดาห์ที่หก สุดสัปดาห์นี้

ฝันเห็นตัวเลข 2 - 3 ตัว เลขเด็ด จากคำทำนายฝัน หมายถึงอะไรบ้าง

คำทำนายความฝัน “ฝันเห็นตัวเลข” หรือ เลขหลายตัว เช่น ฝันเห็นตัวเลข 2 ตัว หรือ 3 ตัว ตามความหมายแล้ว จะหมายถึงเรื่องการระมัดระวังเรื่องการเสี่ยงทายหรือว่าเสี่ยงโชค

สงวนลิขสิทธิ์ © 2567
เกี่ยวกับเรา
นำเสนอข่าวสารและบทวิเคราะห์เชิงลึกด้านเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และสังคมทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมมุมมองที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในยุคข้อมูลข่าวสาร
แนะนำติชม แจ้งปัญหาการใช้งาน
ร่วมงานกับเรา
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram