เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 21/2564 พร้อมตัวผู้ต้องหาให้แก่สำนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด และพวก รวม 34 ราย ในข้อหาฟอกเงิน
คดีนี้เริ่มต้นจากการร้องทุกข์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ต่อ DSI ให้ดำเนินคดีฟอกเงินกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 34 รายได้ร่วมกันนำเงินของสหกรณ์ไปโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพ โดยมีเจตนาซ่อนเร้นหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน อันเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ความเสียหายจากการกระทำผิดครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 2,998,732,000 บาท สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหกรณ์และสมาชิก
ในวันที่ส่งฟ้อง มีผู้ต้องหา 18 รายถูกควบคุมตัวอยู่แล้วในคดีอาญามูลฐาน โดย 10 รายถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และอีก 8 รายถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 16 ราย ทาง DSI ได้นำตัวส่งพนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อไป
DSI ยังได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินมาตรการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย เพื่อนำเงินมาคืนหรือชดใช้แก่สหกรณ์ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความพยายามในการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดในคดีเกี่ยวกับการเงิน โดยเฉพาะในกรณีที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินที่มีสมาชิกจำนวนมาก เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ การดำเนินคดีนี้ไม่เพียงแต่มุ่งลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังพยายามคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายด้วยการติดตามทรัพย์สินคืน
ทั้งนี้ ประชาชนและสมาชิกสหกรณ์ต่างๆ ควรตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสอบการดำเนินงานของสถาบันการเงินที่ตนเป็นสมาชิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต