อาร์เน่อ สล็อต เทรนเนอร์หงส์แดง มีปัญหาแข้งบาดเจ็บ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสาแทน อลิสซง เบ็คเกอร์ พักยาว ขณะที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังไม่ฟิตนั่งสำรอง ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ รับหน้าที่แทน ส่วนแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล,โคดี้ กัคโป หน้าเป้าเป็น ดีโอโก้ โชต้า
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือใหญ่เชลซี เกมนี้ไม่มี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ มาร์ก กูกูเรย่า ทั้งคู่ถูกแบนหลังจากรับใบเหลืองครบ 5 ใบ
คอนเทนต์แนะนำ ออปต้า ทำนายผลแข่งศึกพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี เมสซี่ นำทีมอินเตอร์ ไมอามี่ คว้าสิทธิ์ทำศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 เปิดสถิติใบแดงของอาร์เซน่อลในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ "อาร์เตต้า" คุมทีม
AFP/Paul ELLIS
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ สังหารจุดโทษให้ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0
แต่ได้ รีซ เจมส์ หายเจ็บกลับมาเล่นเกมแรกในฤดูกาลนี้ ประสานแนวรับร่วมกับ โตซิน อดาราบิโอโย ลงสนาม แนวรุก โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ ส่วนหน้าเป้า นิโคลัส แจ็คสัน
นาที 5 ลิเวอร์พูล พลิกบอลได้และบุกอย่างรวดเร็ว โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตัดเข้ามาแล้วเปิดบอลไปโดนมือของ โรเมโอ ลาเวีย ในกรอบเขตโทษ แต่ไม่มีจุดโทษ
จากนั้นเพียงแค่นาทีเดียว โตซิน อดาราบิโอโย กองหลังเชลซี วิ่งดึง ดีโอโก้ โชต้า ล้มลงกลางสนามไม่ให้หลุดเดียว ผู้ตัดสินให้ใบเหลือง ส่วน โชต้า เจ็บในจังหวะนี้ทำให้เกมต้องหยุดช่วงหนึ่ง สุดท้ายกลับมาเล่นต่อได้
นาที 21 เชลซี เกือบพลาดก่อน โรเบิร์ต ซานเชซ เล่นจากกรอบเขตโทษของตัวเอง จะจ่ายให้ รีซ เจมส์ แต่บอลเด้งมาเข้าทาง โคดี้ กัคโป แต่โชคยังดีบอลเด้งกลับไปหาผู้รักษาประตูเชลซี
นาที 29 ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะ ลีวาย โคลวิลล์ เตะตัดฟาวล์ เคอร์ติส โจนส์ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดและเป็นประตูที่ 5 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
นาที 32 โคดี้ กัคโป โฉบเข้ามาส่งบอลเข้าตาข่ายให้ลิเวอร์พูล แต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าจากจังหวะรับบอลของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ก่อนหน้านี้
นาที 33 เชลซี มีโอกาสจาก นิโคลัส แจ็คสัน ยิงด้วยขวาแต่บอลลอยเฉียดคานออกไป
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 45+2 ดาร์วิน นูนเญซ แทงบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ เคอร์ติส โจนส์ แต่ว่า โรเบิร์ต ซานเชซ วิ่งออกมาปั้มบอล ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษพร้อมให้ใบเหลือง ซานเชซ สุดท้าย VAR ไม่ให้ประตู เนื่องจาก ซานเชซ เข้าบอลก่อน
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ เชลซี 1-0
AFP/Paul ELLIS
เคอร์ติส โจนส์ แย่งบอลกับ โรเบิร์ต ซานเชซ
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังนาที 48 เชลซี ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะ มอยเซส ไกเซโด แทงบอลทะลุช่องมาให้ นิโคลัส แจ็คสัน หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าไป
นาที 51 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ วางบอลเข้าเขตโทษให้ เคอร์ติส โจนส์ วิ่งตัดเข้ามาจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนดีดด้วยขวาเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล ออกนำอีกครั้ง 2-1
นาที 63 เชลซี ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะ เนโต้ ส่งบอลให้ โนนี่ มาดูเอเก้ ยิงไปติดเซฟของ เคลเลเฮอร์
ช่วงท้ายเกมนาที 90+3 เป็นโอกาสของเชลซี โคล พาลเมอร์ เปิดลูกฟรีคิกเข้ามาให้ เรนาโต้ เวก้า ขึ้นโหม่งแต่บอลข้ามคานออกไป
จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 2-1 คว้า 3 แต้มสำคัญ ทำให้ หงส์แดง แข่ง 8 นัด ชนะ 7 แพ้ 1 นัด มี 21 แต้ม ครองจ่าฝูงต่อ ส่วน เชลซี ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 2 นัด มี 14 แต้มเท่าเดิม ตกลงมารั้งที่ 6 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน -ไรอัน กราเฟนแบร์ก, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, โคดี้ กัคโป - ดีโอโก้ โชต้า
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - มาโล กุสโต้, ลีวาย โคลวิลล์,โตซิน อดาราบิโอโย, รีซ เจมส์ - โรเมโอ ลาเวีย, มอยเซส ไกเซโด - โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ - นิโคลัส แจ็คสัน
