บีบีซี สื่อของอังกฤษ ออกมารายงานว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก จะเป็นเจ้าภาพร่วม ถูกมองว่ามีแนวโน้มจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สร้างความเสียหายต่อสภาพภูมิอากาศมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตามการวิจัยใหม่ขององค์กร Scientists for Global Responsibility (SGR) โดยนักวิทยาศาสตร์ของ SGR ได้คำนวณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการแข่งขันรายการนี้ที่จะมีการเพิ่มจำนวนทีมจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม
คอนเทนต์แนะนำ นัดชิงชนะบอลโลก 2026 อาจแข่งในร่มครั้งแรก เปิด 10 ชาติผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026
AFP/FRANCK FIFE
อาร์เจนตินา แชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
กลุ่มรณรงค์อ้างว่าการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 ที่ขยายขอบเขตออกไปจะก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ามากกว่า 9 ล้านตัน ทั้งจากการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและปริมาณการแข่งขันที่เพิ่มจำนวนนัดจาก 64 นัดเป็นทั้งหมด 104 นัด เพิ่มจากเดิมจบ 32 วัน เป็น 39 วัน แม้ว่าทั้งหมดจะจัดแข่งขันในสนามกีฬาที่มีอยู่แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ SGR ยังระบุอีกด้วยว่าเกือบ 2 เท่าของค่าเฉลี่ยการแข่งขันฟุตบอลโลก 4 ครั้งหลังสุด นั้นมากกว่าการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์อย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกระทบต่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2e มากถึง 5.25 ล้านตัน
รายงานระบุคาดการณ์ว่ายอดรวมในปี 2026 จะเทียบเท่ากับรถยนต์ในอังกฤษทั่วไปเกือบ 6.5 ล้านคันที่ขับตลอดทั้งปีและจะเป็นการแข่งขันที่ก่อมลพิษมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพครั้งแรก ชาติเจ้าภาพทั้ง 3 ประเทศที่คาดว่าจะเป็นเจ้าภาพในปี 2026 เปิดเผยการประมาณการเบื้องต้นที่ 3.6 ล้านตันขอก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ง CO2e แม้ว่าในขั้นตอนนั้นคาดว่าจะจัดเพียง 80 แมตช์เท่านั้น นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าการเสนอตัวตอนนั้นหวังว่าฟุตบอลโลกปี 2026 จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในกีฬาและให้ผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่วัดผลได้
สำหรับฟุตบอลโลก 2026 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.-19 ก.ค. 2569