หนุ่มจีน วัย 30 ปี เปิดใจผ่านรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เผยเรื่องราวสุดช้ำใจถูกภรรยาชาวไทยหลอกหย่า พร้อมฮุบทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ก่อนพาชายอื่นเข้าบ้าน สร้างความเสียหายทางจิตใจอย่างหนัก
เคน (นามสมมติ) หนุ่มจีนผู้เสียหาย เล่าว่าเขารู้จักกับอดีตภรรยาชาวไทยชื่อ เอวา มานานกว่า 7 ปี ก่อนตัดสินใจแต่งงานจดทะเบียนสมรสในปี 2565 และมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งเอวาเริ่มพูดถึงเรื่องการหย่าร้างบ่อยครั้ง โดยอ้างว่าต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เพื่ออนาคตของครอบครัว
ด้วยความรักและไว้วางใจ เคนจึงยอมเซ็นใบหย่าให้กับภรรยา แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเอวา ทั้งการกลับบ้านดึก ออกจากบ้านแต่เช้า และที่น่าตกใจที่สุดคือทรัพย์สินมีค่าในบ้านเริ่มหายไปทีละชิ้น
จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 เมื่อเอวากลับมาบ้านพร้อมกับขนของมีค่าออกไป เคนพยายามขัดขวางแต่กลับมีชายแปลกหน้าเข้ามาช่วยเอวายกกระเป๋าขึ้นรถ ซึ่งภายหลังเขาทราบว่าชายคนนั้นคือแฟนใหม่ของอดีตภรรยานั่นเอง
เคนเปิดเผยว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่หายไป เป็นเงินที่เขาหามาได้จากการทำธุรกิจ โดยยกให้ภรรยาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99% เนื่องจากตนเป็นชาวต่างชาติ ทำให้การดำเนินธุรกิจในไทยทำได้ยากลำบาก "ผมไว้ใจเธอมาก จึงยกทุกอย่างให้ แต่ไม่คิดว่าจะถูกหักหลังแบบนี้" เคนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเอวาได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยยืนยันว่าไม่เคยนอกใจสามี และเงินทุกบาททุกสตางค์ล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง พร้อมท้าให้ตรวจสอบหลักฐานทางการเงินทั้งหมด
ขณะที่แฟนใหม่ของเอวา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นมือที่สาม เพราะทั้งคู่หย่าร้างกันแล้ว แต่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเอวาเกินกว่าคำว่าเพื่อน
ทนายความผู้รับคดีให้ความเห็นว่า จากหลักฐานที่มี สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาได้ โดยอาจฟ้องให้การหย่าเป็นโมฆะ รวมถึงข้อหาลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์
เรื่องราวของเคนสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการไว้วางใจคน โดยปราศจากการตรวจสอบ โดยเฉพาะในเรื่องการเงินและทรัพย์สิน แม้จะเป็นคนใกล้ชิดเพียงใดก็ตาม ขณะนี้เคนกำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและทรัพย์สินคืน พร้อมทั้งขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร โดยยืนยันว่าจะไม่กลับไปคืนดีกับอดีตภรรยาอีกต่อไป