ศึกดีเบตเดือด! แฮร์ริสเฉือนชนะทรัมป์ กระแสเลือกตั้งพลิกได้

ศึกดีเบตเดือด! แฮร์ริสเฉือนชนะทรัมป์ กระแสเลือกตั้งพลิกได้
Published: 12/09/2024

ศึกดีเบตครั้งแรกระหว่าง คามาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ จบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย แต่เส้นทางสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังอีกยาวไกล การโต้วาทีเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย เป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่เข้มข้น โดยยังเหลือเวลาอีก 8 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง

ผลโพลหลังดีเบตชี้ชัด แฮร์ริสเหนือกว่า

ผลสำรวจความคิดเห็นจาก CNN เผยว่า 63% ของผู้ชมเห็นว่า แฮร์ริสทำผลงานได้ดีกว่า ขณะที่ 37% เชียร์ทรัมป์ นับเป็นการพลิกสถานการณ์จากก่อนดีเบตที่คะแนนเท่ากัน 50-50 นอกจากนี้ ความนิยมของแฮร์ริสยังเพิ่มขึ้น 6% หลังจบรายการ

ปัจจัยชี้ขาด ใครจะนำการเปลี่ยนแปลง

แม้แฮร์ริสจะชนะดีเบต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคว้าชัยในการเลือกตั้งโดยอัตโนมัติ ผลสำรวจล่าสุดจาก New York Times/Siena College ชี้ว่า 63% ของชาวอเมริกันต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากยุคของ โจ ไบเดน ประเด็นนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

แฮร์ริสเสนอ "เส้นทางใหม่สู่อนาคต" ขณะที่ทรัมป์โจมตีคู่แข่งว่าไม่ได้สร้างผลงานในช่วง 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังลังเลอีกกว่า 200,000 คน

จุดแข็ง-จุดอ่อนของผู้ท้าชิง

ทรัมป์ได้เปรียบในประเด็นเศรษฐกิจและนโยบายผู้อพยพ ซึ่งเคยเป็นจุดขายสำคัญในการเลือกตั้งครั้งก่อน ขณะที่แฮร์ริสมีคะแนนนำในเรื่องสิทธิการทำแท้งและการปกป้องประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ผลโพลล่าสุดชี้ว่าคะแนนของทั้งคู่ยังสูสีกันมาก การตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในช่วง 8 สัปดาห์สุดท้ายจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

บทสรุปเกมยังไม่จบ

แม้แฮร์ริสจะชนะในรอบดีเบต แต่ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า ผู้แพ้ดีเบตอย่าง จอร์จ ดับเบิลยู บุช และ โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็เคยคว้าชัยในการเลือกตั้งมาแล้ว การแข่งขันในช่วงโค้งสุดท้ายจึงยังเปิดกว้าง และทุกคะแนนเสียงล้วนมีความหมาย ผู้ที่จะคว้าชัยชนะในที่สุด คือผู้ที่สามารถโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ว่า ตนคือผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ชาวอเมริกันกำลังรอคอย

ข่าวล่าสุด

สื่อน้ำหอมเผยข่าวป็อกบา-มาร์กเซยสุดมั่ว

สื่อฝรั่งเศสรายงานว่ากระแสข่าวการติดต่อระหว่าง โอลิมปิก มาร์กเซย กับ ปอล ป็อกบา ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด กองกลางวัย 31 ปีได้รับการลดโทษแบนสารกระตุ้นหลังมีการอุทธรณ์ผ่าน ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา ทำให้นักเตะเตรียมกลับมาลงซ้อมในช่วงต้นปี 2025  กระนั้นมีรายงนระบุ ยูเวนตุส เตรียมแยกทางมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส โดยเรื่องดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจาก ติอาโก้ ม็อตต้า เทรนเนอร์ใหญ่และบอร์ดบริหารสโมสรดังอิตาลี ส่งผลมีรายงานเพิ่มเติมระบุว่า โอลิมปิก มาร์กเซย กำลังให้ความสนใจ ป็อกบา แถมยังมีการติดต่อหาตัวแทนนักเตะเพื่อสอบถามโอกาสย้ายไป สต๊าด เวโลโดรม ในอนาคต กระนั้น อาร์แอ็มเซ สื่อแดนน้ำหอมเผยว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีการติดต่อหากันตามที่มีรายงานออกมา ณ ตอนนี้ ป็อกบา กำลังรอให้ถึงกำหนดกลับมาลงซ้อมอีกครั้ง เช่นเดียวกับ โอแอ็ม กำลังมุ่งมั่นกับฤดูกาล 2024/25 โดยสื่อแดนน้ำหอมยืนยันไม่มีการติดต่อระหว่างสองฝ่ายตามที่สื่อพยายามเล่นข่าว

สิงโตเรียก 'โจนส์, ลิฟราเมนโต้' ขึ้นชุดใหญ่

ทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจเรียก เคอร์ติส โจนส์ กองกลางลิเวอร์พูล และทิโน่ ลิฟราเมนโต้ แบ็คของนิวคาสเซิ่ล มาติดทีมชุดใหญ่แล้ว โจนส์ ถูกเรียกตัวมาติดทีมหนแรกเมื่อ พ.ค. ที่ผ่านมาในตอนที่แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศรายชื่อนักเตะชุดแรก 33 คน เพื่อทำศึกยูโร 2024 ก่อนโดนตัดตัวออกไป เขาเป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติอังกฤษ ที่คว้าแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปี 2023 ภายใต้การนำทีมของลี คาร์สลี่ย์ ทางด้านลิฟราเมนโต้ เคยโดนคาร์สลี่ย์ เรียกมาติดทีมในเกมพบไอร์แลนด์ และฟินแลนด์ เมื่อเดือนก่อน แต่ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม "สิงโตคำราม" มีคิวเปิดบ้านพบ กรีซ ที่เวมบลีย์ วันพฤหัสบดีนี้ ก่อนเจอฟินแลนด์ ที่เฮลซิงกิ วันอาทิตย์ ในเกมเนชั่นส์ ลีก

หายไป 7 ปี! 'โซลันกี้' ชื่นใจทำงานหนักจนคัมแบ็คสิงโต

โดมินิก โซลันกี้ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยอมรับการกลับมาติดทัพอีกหนในรอบ 7 ปี มีความหมายอย่างยิ่งกับตัวเขา ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ถูกเรียกเข้ามาติดทีม หลังเคยลงสนามหนแรกและหนเดียวตอนเป็นสำรองในเกมพบบราซิล เมื่อปี 2017 "ผมทำงานหนักมากเพื่อกลับมาอยู่ในโมเมนต์นี้ มันคือส่วนหนึ่งของฟุตบอล ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ใช่สำหรับคุณ การเดินทางของทุกคนไม่เหมือนกัน" ดาวยิงท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ กล่าว "ผมคงไม่มีหนทางอื่น ผมรู้สึกว่านี่คือหนทางที่ต้องเป็นของผม ผมรู้สึกว่าตอนนี้เกมของผมคลิ้กไปหมด" หลังย้ายจากบอร์นมัธ มาอยู่กับ "ไก่เดือยทอง" ตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ โซลันกี้ ยิงไปแล้ว 3 ประตูจาก 8 เกมที่ลงสนามรวมทุกรายการ "ผมเชื่อเสมอว่าผมจะกลับมาตรงนี้ นั่นคือความรู้สึกนึกคิดของผม และมันคือสิ่งที่ทำให้ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงาน" "ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่ได้กลับมาอยู่ตรงนี้ในตอนนี้ หวังว่าผมจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้ การได้เป็นตัวแทนประเทศคือความฝัน ไม่เกี่ยวว่าจะกี่ครั้งกี่หน มันเป็นเหมือนเดิมเสมอ"

สงวนลิขสิทธิ์ © 2567
เกี่ยวกับเรา
นำเสนอข่าวสารและบทวิเคราะห์เชิงลึกด้านเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และสังคมทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมมุมมองที่หลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในยุคข้อมูลข่าวสาร
แนะนำติชม แจ้งปัญหาการใช้งาน
ร่วมงานกับเรา
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram