พระเครื่องลางห้ากลุ่ม เป็นชุดพระเครื่องลางที่ได้รับการกล่าวถึงและก็ชูให้เป็นชุดพระเครื่องลางที่มีมูลค่าสูงจากเหล่าเซียนพระ ด้วยเหตุว่าเช้าใจกันว่าเป็นชุดพระเครื่องลางที่มีคุณพระพุทธเจ้าสูง อีกทั้งในด้านการคุ้มครองป้องกันให้ปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีแล้วก็ด้านเมตตามหานิยม วันนี้พวกเราจะพาไปทำความรู้จักกับพระเครื่องลางชุดห้ากลุ่มว่า เพราะอะไรเหล่าเซียนพระถึงตามหาและก็ต้องการเอามาบูชา รวมทั้งพระห้าฝ่ายนี้มีคุณพระพุทธเจ้ายังไง มาดูกัน
ทำความรู้จัก พระเครื่องลางห้ากลุ่ม เป็นยังไง ?
พระเครื่องลางห้ากลุ่มหมายถึงพระเครื่องลาง 5 ประเภทที่นับว่าเป็นยอดเยี่ยมพระเครื่องลางแต่ละสมัยที่มีมูลค่าสูงแล้วก็หายาก เนื่องจากว่าพระเครื่องลางชุดห้าแนวร่วมนั้นมีความเก่าแก่กว่าร้อยปีรวมทั้งมีคุณพระพุทธเจ้าที่ว่ากันว่า ใครกันแน่ที่ได้เป็นเจ้าของจะมีบารมีรวมทั้งอำนาจวาสนาเป็นอย่างมาก ทำให้พระเครื่องลางห้าแนวร่วมเปลี่ยนเป็นยอดเยี่ยมพระเครื่องลางที่เหล่านักสะสมรวมทั้งเซียนพระคนไม่ใช่น้อยอยากได้ ทั้งมีมูลค่าสูงอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาของชุดพระเครื่องลางห้าพรรค
ต้นกำเนิดพระเครื่องลางห้ากลุ่ม เป็นชุดพระเครื่องลางที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2495 โดย พันเอก (พิเศษ) ผจญ คำกล่าวขวัญเรื่องราว หรือ “ตรียัมปวาย” และก็ น.ท. สันทัด ที่ทัพอากาศ (คนจัดทำพระชุดมังกรดำ) กับสหายอีก 2-3 คน ได้คิดจะทำจัดชุดพระแขวนคอกัน ซึ่งคุณครูตรีมีความรู้สึกว่าน่าจะทำชุดพระที่มีความจำเป็นรวมทั้งเป็นพระที่มีความชื่นชอบ ก็เลยได้มีการขอคำแนะนำกันว่าจะนำท่านใดมาทำบ้าง เพื่อความงดงามและก็สมควร
พระเครื่องลางองค์แรกชุดสนธิสัญญาไตรภาคี ภายหลังที่มีการหารือกันแล้วว่าในชุดสนธิสัญญาไตรภาคีจะมีท่านใดบ้าง เพียงแต่ไม่นานพระเครื่องลางองค์แรกที่ถูกเลือกขึ้นมาก็เป็น ‘พระสมเด็จ’ วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งเป็นองค์ประธาน เนื่องจากว่ามีคนยกย่องและก็เลื่อมใสในเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พระพรหมรังสี) อยู่มากมาย ทั้งยังคุณพระพุทธเจ้าของพระเครื่องลางยังครอบจักรวาล ด้วยพระมนต์ที่ปลุกเสกหมายถึงคุ้นชินบัญชรติดอยู่ ยิ่งกว่านั้นขนาดของพระเครื่องลางยังสมควรที่จะเอามาแขวนเป็นท่านกึ่งกลาง แล้วหลังจากนั้นก็เลยเริ่มหาพระสำหรับฝั่งซ้าย-ขวา ที่มีความเก่าแก่และก็เป็นที่นิยมสิ่งเดียวกัน ก็เลยได้ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำกันจนได้ผลสรุปว่าฝั่งขวาจะต้องเป็นพระนางพญาพิมพ์เขาโค้ง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งสร้างโดยพระวิสุทธิกษัตรีย์ ส่วนองค์ต่อมาในฝั่งซ้ายได้มีความเห็นแรกตรงกันว่าต้องเป็นพระรอดพิมพ์ใหญ่ กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นพระโบราณมาตั้งแต่อดีตกาล โดยมีตำนานกล่าวขวัญกันว่าเป็นพระที่ถูกทำขึ้นในยุคพระนางจามเทวี เจ้าผู้ครองนครองค์แรกที่นครหริภุญชัย โดยมีคุณพระพุทธเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตามหานิยมและก็แคล้วคลาดปลอดภัย ก็เลยเอามาแขวนเอาไว้ด้านฝั่งซ้ายของสร้อยกระทั่งกำเนิดเป็น พระชุดสนธิสัญญาไตรภาคี เป็นครั้งแรกนั่นเอง
เปลี่ยนมาเป็นชุดห้าพวก ในเวลาถัดมา ได้มีการสังเกตว่าขนาดของพระเครื่องลางราชินีแล้วก็พระรอดที่แขวนคู่กันนั้นมีขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้มองไม่สมดุล ก็เลยคิดว่าจะจัดชุดให้เป็นพระ 5 องค์แทน ทำให้จะต้องมานั่งคิดต่อว่าต่อขานจะต้องเป็นพระเครื่องลางองค์ไหนถึงจะเหมาะสมกับพระอีกทั้ง 3 องค์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จนได้เป็น ‘พระกำแพงซุ้มกอ’ ซึ่งเป็นพระกรุทุ่งคนมั่งมีมาแขวนเป็นองค์ที่ 4 แล้วก็ภาระหน้าที่หนักก็เลยเกิดขึ้นกับท่านท้ายที่สุดที่จะต้องมองหาองค์พระที่มีความเหมาะสมอีกทั้งขนาดและก็ทรง เพื่อมีความใกล้เคียงกับองค์พระรอด จนได้บทสรุปว่าจะใช้เป็น ‘พระผงสุวรรณพิมพ์หน้าแก่’ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีการจารึกลานทองคำกล่าวว่าเป็นพระมหาปิยะทัตสะสี มั่งคั่งทั้งยังในด้านคุณพระพุทธเจ้าดังที่ในลานทองคำกำหนดไว้ อีกทั้งเป็นที่ชื่นชอบกันมากมายในกลุ่มเซียนพระรวมทั้งอันธพาลพระยุคนั้น จนถึงกำเนิดเป็นพระชุดห้าแนวร่วมคราวแรกขึ้น
พระเครื่องเบญจภาคีมีอะไรบ้าง? แต่ละองค์มีพุทธคุณอย่างไร ?
1. พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆังได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดพระเครื่อง และถูกขนานนามว่าเป็น “จักรพรรดิพระเครื่อง” ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล โดยจะเน้นไปที่บุญฤทธิ์และหนุนดวงชะตา เมตตามหานิยม คงกระพัน โชคลาภ ใครที่ได้ครอบครองจะมีแต่โชคลาภ รุ่งเรืองยิ่งขึ้น ไม่มีวันตกต่ำ เป็นสุดยอดพระเครื่องที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์
2. พระรอด กรุมหาวัน
พระรอดกรุมหาวัน จังหวัดลำพูน เป็นพระเครื่องที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยทวาราวดีตอนปลาย สมัยที่พระนางจามเทวีปกครองเมืองหริภุญชัย โดยถูกขุดค้นพบครั้งแรกในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2435 บริเวณเจดีย์ใหญ่ในวัดมหาวัน ซึ่งเจดีย์บางส่วนมีการชำรุดและได้มีการรื้อเพื่อจะทำการปฏิสังขรณ์จึงพบกับพระรอดนั่นเอง ซึ่งพุทธคุณของพระรอดนั้นจะเน้นไปที่พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน อุดมด้วยโภคทรัพย์ ร่ำรวยทรัพย์ และยังเด่นในด้านแคล้วคลาด ช่วยปกป้องภัยอันตรายได้อีกด้วย
3. พระกำแพงซุ้มกอ
เป็นหนึ่งในพระเครื่องชุดกรุทุ่งเศรษฐีที่สร้างจากเนื้อดินผสมระหว่างว่านและเกสรดอกไม้ โดยตัวพระจะมีลักษณะนั่งสมาธิบนฐานบัวเล็บช้างและมีลายกนกด้านข้าง ซึ่งพุทธคุณเรียกได้ว่าครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ไปจนถึงเรื่องโชคลาภ จนมีคำที่ถูกพูดต่อๆ กันมาว่า ‘มีกูแล้วไม่จน’ ทำให้พระกำแพงซุ้มกอซึ่งเป็นพระเครื่องที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เป็นอีกหนึ่งพระเครื่องที่เหล่าเซียนพระและนักเลงพระตามหากัน อีกทั้งยังมีราคาสูงมาก
4. พระผงสุพรรณ กรุวัดศรีรัตนมหาธาตุ
มาต่อกันกับพระผงสุพรรณ พระพุทธรูป แผ่นลานเงิน ลานทอง โดยมีบางส่วนที่ยังหลงเหลือ และระบุว่ามีพระฤาษี 11 ตน ซึ่งมีพระฤาษีพิมพิลาไลย พระฤาษีตาวัว พระฤาษีตาไฟ ซึ่งเป็นประธานในการจัดสร้างพระเครื่องในกรุนี้ โดยพุทธคุณของพระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี ถูกสร้างขึ้นในสมัยอู่ทอง เป็นที่เลื่องชื่อลือชาตั้งแต่โบราณ โดยปรากฏอยู่ในจารึกลานทองที่ได้จากกรุและถูกคัดลอกออกเป็น 6 สำเนา ด้วยกรรมวิธีการสร้างและ "อุปเท่ห์" ซึ่งหมายถึงวิธีการอาราธนาองค์พระเพื่อให้ท่านช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ให้สำเร็จผลในทุกเรื่อง
5. พระนางพญา
เป็นพระเครื่องที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาที่มีต้นกำเนิดมาจาก ‘วัดนางพญา’ เป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดราชบูรณะ ซึ่งมีพุทธคุณที่โดดเด่นในด้านเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี
และนี่คือพระเครื่องเบญจภาคี สุดยอดพระเครื่องที่เป็นที่กล่าวขานมาอย่างยาวนานเป็นของที่ทรงคุณค่า ควรค่าเเก่การอนุรักษ์ไว้เพียบพร้อมไปด้วยพุทธคุณซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว ความงดงามขององค์พระและกรรมวิธีการสร้างที่เกจิได้ใส่พลังจิตเรียกพลัง ที่ท่านตั้งใจทําให้ลูกศิษย์ไว้ได้ใช้ สำหรับใครที่มีกรุพระเครื่องเก่าเก็บอยู่และอยากตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นพระแท้หรือไม่ เช็คพระฟรี พระแท้ เพียงแอดไลน์ @SKCheck ก็รู้แล้วว่าพระเครื่องที่ครอบครองอยู่แท้หรือเก๊ หมดสงสัยกับพระเครื่องที่สงสัย ด้วย @SKCheck
ตรวจสอบโดยทีมงานเซียนพระมืออาชีพที่มีคุณภาพ รับประกันโดยโอ๊ต บางเเพ
แอดไลน์ @skcheck
หรือคลิก https://lin.ee/didOn9m
สอบถาม / ติดตามรายละเอียด : เพจ SK Check สันขวาน by โอ๊ต บางแพ