"สัปเหร่อ" เฉิดฉายครองใจกรรมการ คว้า 7 รางวัลสุพรรณหงส์ ตอกย้ำความสำเร็จวงการหนังไทย ชี้ทิศทางหนังไทยยุคใหม่ ในงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 32 ประจำปี 2566 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ภายใต้แนวคิด "แสงแห่งกันและกัน" สะท้อนความร่วมมือของวงการภาพยนตร์ไทยในการก้าวสู่ยุคทองครั้งใหม่
ภาพยนตร์ "สัปเหร่อ" ผงาดคว้า 7 รางวัลใหญ่
ภาพยนตร์เรื่อง "สัปเหร่อ" โดดเด่นที่สุดในงานประกาศรางวัลครั้งนี้ โดยคว้าไปถึง 7 รางวัลสำคัญ ได้แก่:
1. รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2. รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ธิติ ศรีนวล)
3. รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ชาติชาย ชินศรี)
4. รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
5. รางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
6. รางวัลภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม
7. ภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุด ประจำปี 2566
ความสำเร็จของ "สัปเหร่อ" สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของภาพยนตร์ไทยที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีความลึกซึ้งทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งสามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างกว้างขวาง
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม โดยใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์
ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากผลงานการแสดงที่โดดเด่น สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการและผู้ชม
รางวัลสาขาเทคนิคและศิลปะการสร้างภาพยนตร์
นอกจากรางวัลหลักแล้ว ยังมีการมอบรางวัลในสาขาเทคนิคและศิลปะการสร้างภาพยนตร์ที่น่าสนใจ อาทิ:
- รางวัลเทคนิคการสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม: "ขุนพันธ์ 3"
- รางวัลเทคนิคพิเศษการแต่งหน้ายอดเยี่ยม: "ธี่หยด"
- รางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม: "แมนสรวง"
- รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม: "แมนสรวง"
- รางวัลพิเศษและการยกย่องบุคลากรในวงการภาพยนตร์
งานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ยังให้ความสำคัญกับการยกย่องบุคลากรที่มีคุณูปการต่อวงการภาพยนตร์ไทย โดยมอบรางวัลสุพรรณหงส์เกียรติยศ (Lifetime Achievement Award) แก่ รองศาสตราจารย์บรรจง โกศัลย์วัฒน์ ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิชาภาพยนตร์สมัยใหม่ไทย
งานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 32 ไม่เพียงแต่เป็นการเชิดชูผลงานคุณภาพในวงการภาพยนตร์ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง "สัปเหร่อ" แสดงให้เห็นว่าผู้ชมพร้อมที่จะเปิดรับเนื้อหาที่มีความลึกซึ้งและสะท้อนวัฒนธรรมไทย ขณะเดียวกันก็ยังคงความบันเทิงได้อย่างลงตัว