ไพบูลย์ เปิดโปงแผนการล้มล้างการปกครอง ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเอาผิดทักษิณและพรรคเพื่อไทย วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน เมื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเผยถึงการดำเนินการทางกฎหมายต่อนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ในข้อหาล้มล้างการปกครอง
ไพบูลย์ เผยแผนการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นายไพบูลย์ได้ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เวลา 07.00 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม 2567 จะเป็น "จุดเริ่มต้นของจุดจบพรรคแกนนำรัฐบาล" ซึ่งต่อมาได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
รายละเอียดการยื่นคำร้อง
เวลา 10.30 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ผู้ยื่นคำร้อง นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน
ผู้ถูกร้อง
1. นายทักษิณ ชินวัตร
2. พรรคเพื่อไทย
เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง คำร้อง 65 หน้า เอกสารประกอบ 443 แผ่น รวมทั้งสิ้น 5,080 แผ่น (10 ชุด)
ประเด็นสำคัญของคำร้อง
นายธีรยุทธได้เปิดเผยว่า คำร้องนี้มีความคล้ายคลึงกับกรณีของพรรคก้าวไกล แต่มีหลายประเด็นที่แตกต่างกัน โดยรายละเอียดทั้งหมดจะมีการแถลงในเวลา 10.30 น. ของวันเดียวกัน
ข้อกล่าวหาหลัก
คำร้องระบุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สั่งการให้นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยยุติการกระทำที่อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย การใช้สิทธิและเสรีภาพที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
บทบาทของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร
นายธีรยุทธเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้เคยร้องให้
1. ยุบพรรคก้าวไกล
2. ดำเนินการเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ส.ส. พรรคก้าวไกล 44 คน
การเตรียมการก่อนยื่นคำร้อง
นายธีรยุทธเปิดเผยว่าได้เก็บรวบรวมข้อมูลมาเป็นเวลานาน และได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ก่อนที่จะมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การยื่นคำร้องครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันและพรรคเพื่อไทย หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา
การติดตามความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นประเด็นสำคัญในวงการการเมืองไทยในระยะเวลาอันใกล้นี้ และอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญในอนาคต