กำหนดการเข้ารับตำแหน่งของ รูเบน อโมริม การเดินทางมาถึงของกุนซือชาวโปรตุเกสที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะเกิดขึ้นหลังช่วงเบรคทีมชาติเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยนัดแรกที่จะได้คุมทีมคือเกมเหย้าพบ อิปสวิช ทาวน์ วันที่ 24 พฤศจิกายน ก่อนหน้านั้น รุด ฟาน นิสเตลรอย จะรับหน้าที่คุมทีมชั่วคราวในอีก 3 นัดสำคัญ ได้แก่ เชลซี (พรีเมียร์ลีก) พีเอโอเค (ยูโรปา ลีก) และเลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
รูเบน อโมริม กุนซือวัย 39 กับภารกิจปฏิวัติปีศาจแดง
วิเคราะห์ รูเบน ทายาทโค้ชโปรตุเกสคนใหม่ของโรงละครแห่งความฝัน ข่าวการเข้ามาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ รูเบน อโมริม กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลปีศาจแดง โดยกุนซือวัย 39 ปี มีกำหนดเริ่มงานหลังเบรคทีมชาติเดือนพฤศจิกายน 2024 นัดแรกที่จะได้คุมทีมคือการพบกับ อิปสวิช ทาวน์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน
รูเบน อโมริม จากสปอร์ติ้งสู่แมนยู
เส้นทางของนักยุทธศาสตร์หนุ่ม อโมริม สร้างชื่อจากการพาสปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสได้สำเร็จ ด้วยฟุตบอลสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานระหว่างการครองบอลและการกดดันสูง เขาถือเป็นตัวแทนของโค้ชรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดก้าวหน้าและกล้าที่จะทดลองแท็คติกแปลกใหม่
การปฏิวัติของ รูเบน อโมริม ด้วยระบบ 3-4-3
แท็คติกสมัยใหม่บนรากฐานดั้งเดิมด้วย ระบบ 3-4-3 ของอโมริมไม่ใช่แค่การจัดผู้เล่น 11 คนลงสนาม แต่เป็นปรัชญาฟุตบอลที่เน้นการสร้างความได้เปรียบเชิงพื้นที่ผ่านการเคลื่อนที่อย่างมีระบบ เปิดการใช้กองหลังสามคนในการสร้างเกม และการแปรรูปแบบระหว่างเกมจาก 3-4-3 เป็น 3-2-5 ในจังหวะรุก
รูเบน อโมริม ประยุกต์ใช้กับขุมกำลังปัจจุบัน
นักเตะแมนยูหลายรายมีคุณสมบัติที่เข้ากับระบบนี้ ได้แก่ มาร์ติเนซ กองหลังที่เล่นบอลได้ดีและมีภาวะผู้นำ เดอ ลิกต์ มีประสบการณ์จากการเล่นระบบ 3 คนหลังในทีมชาติ และโยโร่ ดาวรุ่งที่มีทักษะการสร้างเกมเยี่ยม
จุดแข็งของทีมที่ รูเบน อโมริม ต้องต่อยอด
- กองหลังที่มีคุณภาพและหลากหลาย
- นักเตะรุ่นใหม่ที่พร้อมเรียนรู้ระบบใหม่
- แรงสนับสนุนจากแฟนบอลที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
จุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้ไข
- ขาดวิงแบ็คที่มีความสมบูรณ์
- ต้องเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง
- การปรับตัวของนักเตะกับระบบใหม่
อนาคตของแมนยูภายใต้ อโมริม
กุญแจสู่ความสำเร็จการเสริมทัพอย่างมีวิสัยทัศน์ การพัฒนาระบบฝึกซ้อมที่เข้มข้น การสร้างวัฒนธรรมการเล่นรูปแบบใหม่ และการใช้ความอดทนจากทุกฝ่ายในช่วงเปลี่ยนผ่าน
เป้าหมายระยะยาวของทีมแมนเชสเตอร์ ยูในเต็ด จะสร้างอัตลักษณ์การเล่นที่ชัดเจน พร้อมพัฒนานักเตะดาวรุ่งควบคู่กับผลงาน เพื่อกลับสู่การแข่งขันในระดับสูงสุดของยุโรปต่อไป